นายกฯส่งสัญญาณชัดยืดพ.ร.ก.ฉุกเฉินอีกเดือนคลายล็อกดาวน์กลางพ.ค.

21 เม.ย. 2563 | 11:52 น.

สัญญาณชัด“นายกฯ”เล็งต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปจนถึงสิ้นเดือนพ.ค.นี้ ส่วนมาตรการ “ล็อกดาวน์” เริ่มผ่อนคลาย 15 พ.ค. หวั่นมาตรการที่ออกไปจะล้มเหลว


แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า แม้จะมีแรงกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผ่อนปรนมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่นายกรัฐมนตรีได้พูดชัดเจนในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้ตั้งทีมศึกษาผลกระทบและข้อเสนอในการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ แล้ว แต่รัฐบาลจะยังไม่มีการประกาศผ่อนปรนมาตรการปิดเมืองทั้งหมดในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้อย่างแน่นอน โดยจะยึดข้อมูลด้านสาธารณสุขและชีวิตของผู้คนเป็นสำคัญ


นอกจากนี้ นายกฯ ยังระบุชัดว่า จะขยายระยะเวลาการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งน่าจะถึงสิ้นเดือนพ.ค.นี้


อย่างไรก็ตาม นายกฯ ชี้แจงว่า จะพิจารณาผ่อนปรนมาตรการบางอย่างลงมา ตามความเหมาะสมอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ประชาชนไม่เดือดร้อนจนเกินไป โดยจะพิจารณาวันอังคารที่ 28 เม.ย. เพื่อมีการเริ่มผ่อนคลายมาตรการในวันที่ 15 พ.ค.

 


ประเด็นดังกล่าวได้รับการยืนยันจาก พล.อ.ประยุทธ์ ในการแถลงภายหลังการประชุมครม.ว่า วันนี้แม้สถานการณ์ดีขึ้น สถิติผู้ติดเชื้อลดลงตามลำดับมาหลายวันแล้ว แต่ต้องดูต่อ เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป อย่าเพิ่งผลีผลาม หลายคนเรียกร้องให้ปลดโน้นปลดนี่ ในเวลานี้ แต่คิดว่าต้องระมัดระวังอย่างที่สุด และฟังข้อมูลด้านสาธารณสุขและแพทย์ด้วย รวมถึงมาตรการรองรับเพียงพอแล้วหรือไม่ 


“ผมไม่ต้องการให้การตัดสินใจด้วยแรงกดดันหลายอย่าง แต่อยากให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง ถ้าเริ่มหรือปลดเร็วเกินไป สิ่งที่ตามมาหากแพร่ระบาดขึ้นอีก สิ่งที่ทำมาทั้งหมดด้วยระยะเวลานานจะล้มเหลว แล้วจะทำอย่างไร นี่คือสิ่งที่ผมต้องดูแลเป็นพิเศษ วันนี้ตัวเลขต่างๆ ที่มันลดลงไปแล้วไม่ว่า ผู้ติดเชื้อรายวันที่ลดลงหรือผู้ที่รักษาหายมากขึ้น เกิดจากพวกเราทุกคนร่วมมือกัน ไม่ใช่รัฐอย่างเดียว ถ้าประชาชนร่วมมือกันมากมันก็ลดลงได้มาก เรื่องการผ่อนปรนก็จะมากขึ้นในอนาคต ดังนั้นที่สั่งการไป ผมไม่เคยประกาศว่าจะเลิกวันที่ 1 พฤษภาคมหรือวันที่อะไรต่างๆ ผมไม่เคยพูด เพราะต้องดูสถิติให้มีความรอบคอบ 


นายกฯ กล่าวว่า การผ่อนปรนอะไรก็ตาม ผู้ประกอบการต้องเสนอมาตรการของตัวเองขึ้นมาให้รับทราบว่า จะทำอะไรได้บ้าง เช่น การเตรียมการเรื่องสถานที่ เจ้าหน้าที่ต้องปลอดภัย มีการตรวจโรคตรวจเชื้อให้รัดกุม มีการเว้นระยะห่าง กำหนดจำนวนคน และการจัดพื้นที่ จึงต้องทยอยเปิดเป็นบางส่วนในระยะต่อไป