รัฐลุยแก้ราคายางตกชี้ต้องทำทั้งระบบ

01 ก.ค. 2560 | 06:53 น.
รัฐบาลลุยแก้ราคายางตก ชี้ต้องทำทั้งระบบ พร้อมขอบคุณข้อเสนอจากทุกฝ่าย แนะกลุ่มการเมือง เกษตรกร และประชาชน ผนึกกำลังร่วมกันก้าวข้ามวงจรแบบเก่า ๆ

sansern

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกข้อเสนอแนะจากกลุ่มการเมืองและเกษตรกรชาวสวนยางเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำในช่วงนี้ ระบุยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยนิ่งนอนใจและยกเรื่องนี้เป็นวาระสำคัญที่ต้องทำให้เกิดความยั่งยืนด้วยการแก้ไขทั้งระบบ ไม่่ใช่แก้กันที่ปลายทางคือ การให้เงินอุดหนุนอย่างเดียวเหมือนที่ผ่านมา

“ในแต่ละปีราคายางพาราปรับตัวขึ้นลงตามปัจจัยแวดล้อม แม้ว่าราคายางพาราในเดือน พฤษภาคม – มิถุนายน 2560 จะมีแนวโน้มลดลง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจะพบว่า อยู่ในระดับที่สูงขึ้น โดยที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้รัฐบาลได้ออกมาตรการหลายประการเพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่ราคายาง คือ ส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ จัดตั้งหน่วยธุรกิจของการยางแห่งประเทศไทย ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ และจัดตั้งกองทุนรักษาเสถียรภาพราคายางและบังคับใช้กฎหมายควบคุมยาง”

ปัจจุบันหน่วยงานรัฐมีความต้องการใช้ยางรวมกันประมาณ 20,000 ตันหรือราว 20% ของปริมาณการใช้ยางในสต็อกที่มีอยู่ ซึ่งจะช่วยให้ผลผลิตถูกนำไปใช้ ขณะเดียวกันรัฐบาลได้จัดตั้งหน่วยธุรกิจ (Business Unit) ของการยางแห่งประเทศไทย ดำเนินการเชิงพาณิชย์ที่มีความคล่องตัว เพื่อรับซื้อผลผลิตยาง จัดหาตลาดทั้งผลผลิตยางและไม้ยางโลจิสติกส์ จัดหาเงินทุนและสวัสดิการให้แก่เกษตรกร โดยมีแผนจะจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดที่ชัดเจนต่อไป

rub

นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับอินโดนีเซียและมาเลเซียร่วมกันกำหนดมาตรการทางการตลาดที่ช่วยควบคุมราคายางในแต่ละช่วง ประสานกับผู้ส่งออกระดับโลกเพื่อจัดทำข้อตกลงเรื่องการจำกัดการส่งออก ป้องกันการตัดราคากันเอง โดยประเทศไทยจะเร่งรัดให้มีการประชุมระดับรัฐมนตรี 3 ประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาให้สำเร็จโดยเร็ว

ส่วนเรื่องใหม่ที่ได้ดำเนินการ คือ การจัดตั้งกองทุนรักษาเสถียรภาพราคายาง โดยผู้ประกอบการรายใหญ่ของไทยทั้ง 5 ราย และการยางแห่งประเทศไทยได้ร่วมสมทบเงินรวม 1,200 ล้านบาท เพื่อรับซื้อยางทั้งในตลาดล่วงหน้าต่างประเทศ และตลาดกลางในประเทศ ช่วยรักษาเสถียรภาพราคายาง ตลอดจนการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมยาง อย่างเข้มงวดและจริงจัง เช่น การควบคุมการส่งออก และตรวจสต๊อกยาง เป็นต้น

“นายกฯ ขอให้กลุ่มการเมือง เกษตรกร และประชาชน ปรับเปลี่ยนวิธีคิดด้วยการมองไปข้างหน้า ผนึกกำลังร่วมกันแก้ไขปัญหา ก้าวข้ามวงจรแบบเก่า ๆ ด้วยการยกให้เป็นภาระของรัฐบาลแต่เพียงฝ่ายเดียว”