ปภ.เผยน้ำท่วมภาคใต้ตอนล่าง คลี่คลายแล้ว 3 จังหวัด เหลือ"ปัตตานี"

15 ม.ค. 2564 | 03:40 น.

ปภ.เผยสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ตอนล่าง คลี่คลายแล้ว 3 จังหวัด สงขลา ยะลา และนราธิวาส เหลือ"ปัตตานี" 2 อำเภอ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก

15 ม.ค. 64 เวลา 09.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) รายงานฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรงในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ยะลา นราธิวาส และปัตตานี รวม 32 อำเภอ 195 ตำบล 1,055 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 71,568 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 4 ราย ผู้บาดเจ็บ 3 ราย ปิดจุดอพยพแล้วทุกจุด เนื่องจากประชาชนสามารถกลับเข้าที่พักอาศัยได้แล้วทั้งหมด ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังในจังหวัดปัตตานี ซึ่ง ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังและสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ

 

ปภ.เผยน้ำท่วมภาคใต้ตอนล่าง คลี่คลายแล้ว 3 จังหวัด เหลือ"ปัตตานี"

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรงประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งสหพันธรัฐมาเลเซีย ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรง ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2564 - ปัจจุบัน (15 มกราคม 2564 เวลา 06.00 น.) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และดินสไลด์ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ยะลา นราธิวาส และปัตตานี รวม 32 อำเภอ 195 ตำบล 1,055 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 71,568 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 4 ราย (ยะลา 2 ราย สงขลา 1 ราย ปัตตานี 1 ราย) ผู้บาดเจ็บ 3 ราย (สงขลา 2 ราย ปัตตานี 1 ราย) ปิดจุดอพยพแล้วทุกจุด เนื่องจากประชาชนสามารถกลับเข้าที่พักอาศัยได้แล้วทั้งหมด

ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลากใน 2 อำเภอ ของจังหวัดปัตตานี ได้แก่ อำเภอเมืองปัตตานี และอำเภอหนองจิก รวม 11 ตำบล 31 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,107 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง

 

ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยระดมเครื่องจักรกลและเครื่องสูบน้ำเข้าพื้นที่ เพื่อเร่งระบายน้ำและให้การดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจพื้นที่และประเมินความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป 

 

ที่มา : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM