เชียงรายคุมเข้มมาตรการสกัดโควิด

จากกรณีที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับมีหญิงสาวชาวไทยที่ไปทำงานในสถานบันเทิงที่เมือง "ท่าขี้เหล็ก" ลักลอบข้ามพรมแดนเข้ามาในประเทศ และภายหลังถูกตรวจพบว่าเป็นผู้นำเชื้อโควิด-19 เข้ามาในประเทศด้วยนั้น

วันที่ 30 พ.ย. 2563  นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย ร่วมกันแถลงข่าวยืนยันว่า มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จำนวน 2 รายด้วยกัน และทั้ง 2 รายมีประวัติเข้าไปทำงานในจังหวัดท่าขี้เหล็ก แล้วลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศ โดยไม่ผ่านการตรวจคัดกรองและการกัดตัวเฝ้าดูอาการตามมาตรการป้องกันโควิด-19 จึงได้ระดมกำลังค้นหาผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยทั้ง 2 รายเพื่อให้มาทำการตรวจคัดกรองและกักตัวดูอาการเป็นการด่วน 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดไทม์ไลน์ “2 สาวเชียงราย” ติดโควิด-19

“เชียงราย”พบผู้ป่วยโควิดหญิง 2 ราย เชื่อมโยงหญิงเชียงใหม่ 

ด่วน! ผู้ว่าฯเชียงราย แถลงยืนยัน พบผู้ติดโควิด 2 ราย 

อ่วม! ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 63 ล้านราย เพิ่มขึ้นเฉียด 5 แสนราย

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยด้วยว่า ได้สั่งการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบการจัดงานกิจกรรมต่างๆ ที่มีคนร่วมงานเป็นจำนวนมาก รวมทั้งสถานที่ที่มีคนเข้าไปหนาแน่น ไม่ว่าจะเป็นตลาดหรือโรงเรียน สถานศึกษาต่างๆ โดยให้เข้าไปเน้นย้ำมาตรการการป้องกันตนเอง ไม่ประมาทการ์ดอย่าตก ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน รักษาระยะห่างทางสังคม ตลาดสดต้องมีการั้งจุดตรวจคัดกรองและกำหนดทางเข้าทางออกที่ชัดเจน 

ทั้งนี้มีรายงานว่า แม้ยังไม่มีคำสั่งให้ปิดกิจกรรมถนนคนเดินวันเสาร์และถนนคนม่วนวันอาทิตย์ ที่เพิ่งจะกลับมาเปิดได้ไม่นาน แต่จากการที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย สั่งให้ทบทวนมาตรการต่างๆ อาจจะทำให้การจัดกิจกรรมถนนคนเดินและถนนคนม่วน ต้องปรับตัวกันอีกครั้ง แต่ทุกฝ่ายหวังว่าสถานการณ์จะไม่แพร่ระบาดไปมากกว่าที่เป็นอยู่ จนไปมีผลกระทบการการท่องเที่ยว ซึ่งบรรยากาศเริ่มคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ

ในส่วนของการขนส่งสินค้าระหว่างไทย-เมียนมา ที่ด่านศุลกากรแม่สาย ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 นั้น เกิดข่าวลือว่าอาจจะมีคำสั่งให้ปิดด่านหยุดการขนส่งสินค้าเป็นการชั่วคราว ทำให้ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน เป็นต้นมา มีการขนส่งสินค้ากันอย่างคึกคัก เพื่อเป็นการกักตุนหากว่าเกิดมีคำสั่งปิดด่านขึ้นมาจริงๆ 
 

อย่างไรก็ตาม นางสาวผกายมาศ เวียร์รา ประธานหอการค้าอำเภอแม่สาย เปิดเผยว่า เท่าที่หารือประสานงานกับหอการค้าท่าขี้เหล็ก ยังไม่มีสัญญาณว่าจะมีการปิดด่านไม่ให้มีการขนส่งสินค้า เนื่องจากในฝั่งท่าขี้เหล็กมีความต้องการสินค้าไทยไปใช้เพื่อการดำรงชีพประจำวัน โดยเฉพาะสินอาหารสด รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ที่จำเป็นอย่างเช่นน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมีความต้องการใช้มากในแต่ละวัน

ประธานหอการค้าอำเภอแม่สาย บอกด้วยว่า การขนส่งสินค้าที่ผ่านมาผู้ประกอบการทั้งไทยและเมียนมา ให้ความร่วมมือกับทางการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 กันอย่างเคร่งครัด และมีระบบการคัดกรองสอบสวนโรคกันอย่างเต็มที่ จึงทำให้ยังไม่พบว่ามีการติดเชื้อเกิดขึ้นจากกิจกรรมการขนส่งสินค้า ดังนั้นไม่น่าเป็นห่วงและเชื่อว่าทั้งไทยและเมียนมาจะไม่ปิดด่าน เนื่องจากมูลค่าความเสียหายและมูลค่าของการสูญเสียโอกาสทางการค้านั้นมีมาก อันจะเป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการของทั้ง 2 ประเทศ