ยอดดอยหนาวปากสั่น!วันที่ 8 – 12 พ.ย.อุณหภูมิต่ำสุด 8-13 องศา

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 6 - 12 พฤศจิกายน 2563 โดยคาดหมายว่า ในช่วงวันที่ 6 – 8 พ.ย. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า

ประกอบกับ"พายุโคนี”ได้อ่อนกำลังลงแล้วเคลื่อนขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามตอนกลางในวันที่ 6 พ.ย. 63 ทำให้บริเวณประเทศตอนบนมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก 

สำหรับภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ และมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณช่องแคบมะละกา 

ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 12 พ.ย. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบน มีอุณภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นและมีลมแรง

ในขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบนและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อนึ่ง สำหรับ"พายุโซนร้อนอัสนี” (พายุระดับ 3) บริเวณตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลง ในช่วงวันที่ 6-7 พ.ย. 63 โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย ส่วนในช่วงวันที่ 10-11 พ.ย. 63 จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงเคลื่อนตัวผ่านบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง

ข้อควรระวัง   ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนไว้ด้วย และประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ในช่วงวันที่ 6-7 พ.ย. 63 ขอให้เกษตรกรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทยรอด!พายุลูกใหม่ "อัศนี"ไม่กระทบ

อัพเดท "พายุโคนี" 6 พ.ย. ศูนย์กลางอยู่ที่ไหน กระทบไทยจังหวัดไหนบ้าง

กรมอุตุฯประกาศเตือนฉบับที่ 13 "พายุโคนี" อ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชัน มีผลกระทบจนถึง 7 พ.ย.

เปิดภาพดาวเทียม “พายุโคนี” 6พ.ย.63

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 - 12 พฤศจิกายน 2563 แบ่งรายภาค 

ภาคเหนือในช่วงวันที่ 6 – 7 พ.ย. 63 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนร้อยละ 10-20 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส  บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 8 – 12 พ.ย. 63 อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   ในช่วงวันที่ 6 – 8 พ.ย. 63 อากาศเย็นกับมีลมแรง และมีฝนร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 12 พ.ย. 63 อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส  บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลางในช่วงวันที่ 6 – 8 พ.ย. 63 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 12 พ.ย. 63 อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก   ในช่วงวันที่ 6 – 8 พ.ย. 63 อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนร้อยละ 10-20 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 12 พ.ย. 63 อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 6 – 7 พ.ย. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 8 – 12 พ.ย. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 6 – 7 พ.ย. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 8 – 12 พ.ย. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 6 – 8 พ.ย. 63 อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 12 พ.ย. 63 อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.