โควิด 19 กับศึกในและศึกนอกที่ไทยต้องเผชิญ

17 ต.ค. 2563 | 19:00 น.

"หมอธีระ"ระบุ โอกาสระบาดซ้ำของโควิด 19 ในไทย เจอทั้งศึกใน และศึกนอก พร้อมเผยข้อมูลจากแพทย์มะกันที่บอกว่าโรคนี้โหดสุดอย่างที่ไม่เคยสู้มาก่อนในรอบ 102 ปี

วันที่ 17 ตุลาคม 2563 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด - 19 โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้ 


วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ หลายต่อหลายคนคงติดตามสถานการณ์การชุมนุมอย่างต่อเนื่องจากวันก่อนๆ


เราคงตั้งความหวังตรงกันบ้างไม่มากก็น้อยว่า ขอให้ทุกคนปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม


เมื่อตอนบ่ายมีคนส่งข่าวมาให้ว่าที่แม่สอดเจอเคสติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกรวมเป็น 5 ราย ซึ่งคงเป็นข้อมูลที่ยืนยันว่าไวรัสเข้ามาในประเทศแล้วแน่นอน อย่างน้อยที่สุดก็ในพื้นที่แถบนั้น แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่อาจมีอยู่ในที่อื่นๆ ของประเทศเช่นกัน เพียงแต่ระบบการตรวจโรคนั้นยังไม่สามารถไปตรวจอย่างครอบคลุมได้


สถานการณ์ปัจจุบันมีทั้งศึกนอกศึกในที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และไม่ว่าจะคิดหรือคาดการณ์อย่างไรก็ตาม โอกาสระบาดซ้ำนั้นมีสูง จะช้าจะเร็วขึ้นอยู่กับว่าเราจะป้องกันตัวได้อย่างเข้มแข็งเพียงใด และเชื้อจากนอกประเทศจะเข้ามาได้เร็วช้าเพียงใดและมากน้อยเพียงใด


หากประเมินกันตรงๆ ศึกนอกจะเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่จะทำให้เกิดการระบาดซ้ำ ได้แก่ การเปิดประเทศพร้อมการชงนโยบายลดเวลากักตัวของหน่วยงานทั้งหลาย ซึ่งเรื่องนี้มีปราการเพียงด่านเดียวคือระบบการคัดกรองและกักตัว ที่เดิมมีความเข้มแข็ง 14 วัน แต่กำลังจะอ่อนลงฮวบฮาบตามเวลากักตัวที่ลดลง 
 

ในขณะที่เรื่องการทะลักเข้ามาของคนต่างด้าวผ่านช่องทางธรรมชาติต่างๆ นั้น คงกันไม่ได้ทั้งหมด และได้เข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ประชาชนทุกคนจะทำได้คือ การป้องกันตัวเอง และการพยายามนำคนต่างด้าวที่มาทำงานกับเราไปขึ้นทะเบียน และตรวจคัดกรองโควิดก่อนทำงานเสมอ


ส่วนศึกใน ปัจจัยเสี่ยงก็มาจากการชุมนุม และการสลายการชุมนุม คงต้องเอาใจช่วยให้ทุกฝ่ายหาทางจัดการอย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงสวัสดิภาพความปลอดภัยของทุกคน


วันนี้นอกจากติดตามสถานการณ์ข้างต้นแล้ว ได้มีโอกาสฟัง webinar ของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ โรงเรียนเก่า ซึ่งได้เปิดเวทีพูดคุยเรื่องนโยบายสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด โดยได้วิทยากรมาแลกเปลี่ยนคือ Anthony Fauci  


หลายคนคงทราบดีว่า Fauci เป็นแพทย์โรคติดเชื้อที่อเมริกา และได้รับความเคารพนับถือจากคนทั่วโลก เพราะดำรงตนอย่างมั่นคงในด้านวิชาการ และเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการต่อสู้โรคระบาดมาหลายสิบปี ตั้งแต่โรคเอดส์ มาจนถึงโรค COVID-19 ในปัจจุบัน


3 หลักการในการดำเนินชีวิตของ Anthony Fauci คือ การพยายามเสาะหาและเรียนรู้ทุกวัน การพยายามทำสิ่งต่างๆ อย่างเต็มที่ และการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์


"To seek and learn everyday, to strive for excellence, and to serve humankind"


Fauci เล่าว่า โรคนี้โหดสุดอย่างที่ไม่เคยสู้มาก่อนในรอบ 102 ปีเลยทีเดียว
 

ผมพยายามเล่าถึง Anthony Fauci อยู่เสมอ เพราะเป็นแบบอย่างของแพทย์และนักวิชาการที่ไม่ยอมก้มหัวต่ออิทธิพลการเมือง มีความตรงไปตรงมา อะไรถูกก็ว่าถูก อะไรผิดก็คือผิด...


ในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน วิกฤติที่คุกคามชีวิตคนในสังคม เราต้องการคนเช่นนี้ครับ ไม่ใช่แค่ทำงานในเชิงการแพทย์และวิชาการ แต่หมายรวมถึงการทำงานในตำแหน่งหน้าที่ในหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบชีวิตคนทุกมิติด้วย


หากมีคนเช่นนี้มากๆ ในอนาคตเราก็จะไม่มีทางเจอปรากฏการณ์ "ดีครับนาย ได้ครับผม เหมาะสมครับท่าน" และจะไม่เจอหน้ากากล่องหน การหักหัวคิวโรงแรม การ์ดคนอื่นห้ามตกแต่ของกรูและลูกน้องตกได้ การโปรโมทแข่งรถท่ามกลางโรคระบาด ยาเสพติดรักษาสารพัดโรค หรือแม้แต่ปรากฏการณ์ "ไม่มีติดเชื้อในประเทศ เพราะติดเมื่อไหร่โยนความสงสัยไปให้ประเทศอื่นก่อน"


สถานการณ์ปัจจุบัน ขอให้ทุกคนรักตัวเอง รักครอบครัว ป้องกันตัวเสมอนะครับ ด้วยรักต่อทุกคน