3พ.ค. คลาย "ล็อกดาวน์" 6 กลุ่มกิจการ-กิจกรรม

30 เม.ย. 2563 | 08:21 น.

ศบค.แถลงมาตรการ คลาย "ล็อกดาวน์" เริ่ม3พ.ค. นี้ ใน 6กลุ่มกิจการ/กิจกรรม ประเมินทุก14 วัน ไม่เวิร์คก็ยกเลิก

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 30 เม.ย. 63 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. มีการแถลงชี้แจงการ "คลายล็อกดาวน์" หรือ การผ่อนปรนมาตรการ 

 3พ.ค. คลาย "ล็อกดาวน์" 6 กลุ่มกิจการ-กิจกรรม

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุมศบค.มีมติให้ผ่อนปรน กลุ่มกิจกรรม/กิจการ ระยะแรก ที่มี 6 กลุ่ม เริ่มมีผลบังคับวันที่ 3 พ.ค.ได้ทันที เพื่อให้ผู้ประกอบการปรับตัวได้ทัน ได้แก่ 1.ตลาด ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ถนนคนเดิน แผงลอย 2.ร้านจำหน่ายอาหาร อาหารทั่วไป ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศกรีม (นอกห้างสรรพสินค้า) ร้านอาหารริมทาง รถเข็น หาบเร่
 
3.กิจการค้าปลีกส่ง ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านสะดวกซื้อบริเวณพื้นที่นั่ง ยืน รับประทาน รถเร่หรือรถวิ่งขายสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านค้าปลีกขนาดย่อย ร้านค้าปลีกชุมชน ร้านค้าปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม 

4.กีฬา สันทนาการ กิจกรรมในสวนสาธารณะ ได้แก่ เดิน รำไทเก็ก สนามกีฬากลางแจ้งที่เป็นการออกกำลังกายโดยไม่ได้เล่นเป็นทีมและไม่ได้มีการแข่งขัน เทนนิส ยิงปืน นิงธนู จักรยาน กอล์ฟ และสนามซ้อม  5.ร้านตัดผม เสริมสวย เฉพาะตัด สระ ไดร์ 6.อื่นๆ ได้แก่ ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์ 

 3พ.ค. คลาย "ล็อกดาวน์" 6 กลุ่มกิจการ-กิจกรรม

โดยมาตรการผ่อนปรน จะต้องยึดถือแนวทางปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 1 ในข้อ  11 อาทิ การทำความสะอาดพื้นผิวของสถานที่ที่เกี่ยวข้องของการทำกิจกรรม การกำจัดขยะมูลฝอย การสวมหน้ากากอนามัยทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ การล้างมือ การเว้นระยะนั่งหรือยืน 1 เมตร ไม่ให้แออัด 

รวมทั้งมาตรการผ่อนปรนที่จะเกิดขึ้นจะมีการกำหนดมาตรฐานกลางของแต่ละกิจการ กิจกรรมที่จะให้ทุกพื้นที่ยึดถือปฏิบัติ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำหนดรายละเอียดแต่ละพื้นที่กันไป ซึ่งจะเข้มข้นกว่าได้ แต่จะน้อยกว่ามาตรฐานกลางไม่ได้ โดยแนวทางการดำเนินการจะคำนึงถึงปัจจัยด้านสาธารณสุขเป็นหลัก และนำปัจจัยด้านสังคม และเศรษฐกิจมาประกอบการพิจารณา เพราะการติดต่อของโรคหน่วยงานด้านสาธารณสุขจะรู้ดีที่สุด
 3พ.ค. คลาย "ล็อกดาวน์" 6 กลุ่มกิจการ-กิจกรรม  
"ศบค.จะใช้ช่วงเวลา 14 วัน หลังมีการจากนี้ คอยติดตาม ประเมินผลอยู่ตลอดเวลา ถ้ามีตัวเลขคงที่ไปเรื่อยๆ แสดงว่าประชาชนให้ความร่วมมือดี รู้วิธีจัดการตัวเอง จัดกิจการ กิจกรรมได้ดี เราก็จะได้เลื่อนไปในกิจกรรมอื่นๆ ได้มากกว่านี้ แต่ถ้าใน 14 วันนี้ ตัวผู้เลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นสองหลัก สามหลัก ท่านก็ต้องยอมรับว่าเราจะต้องถอยหลงกลับมาตึงและตรึงกิจการ กิจกรรม ซึ่งต้องถูกทบทวนใหม่หมด เราจะพยายามเดินไปด้วยกัน"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีของร้านอาหารที่อนุญาตให้เปิดในวันที่ 3 พ.ค.โดยศบค.จะคู่มือกลางให้กับสถานประกอบการนำไปปฏิบัติ อาทิ ต้องเป็นร้านอาหารขนาดเล็ก ตึกแถวหรือคูหา ติดกันไม่เกิน 2 คูหา เช่น ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านข้าวแกง ร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งเจ้าของร้านจะต้องเตรียมพื้นที่บริการ ให้มีระยะห่างระหว่างกัน 1 เมตร ขณะที่การตั้งโต๊ะต้องห่างกัน 1-2เมตร ต้องมีการทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ และพื้นที่ต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ หรือแอลกอฮอล์ผสมอยู่ทำความสะอาด มีระบบระบายอากาศให้มีการหมุนเวียนอากาศ 10 เท่าต่อชั่วโมง ต้องทำสัญลักษณ์การเว้นระยะห่างบริเวณจุดชำระเงิน ต้องทำความสะอาดห้องน้ำและจุดสัมผัสทุก 1 ชั่วโมง เช่นประตู ลูกบิด ที่สำคัญต้องจัดเตรียมภาชนะ อุปกรณ์ ส่วนบุคคลให้กับลูกค้า ไม่ใช้อุปกรณ์ร่วมกันเช่น เครื่องปรุง เกลือป่น ซอสต่างๆ เป็นต้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวย้ำว่า ทุกคนต้องมีส่วนร่วมหมด ตามหลักการเราต้องร่วมมือให้ได้มากกว่า 90% ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ 7 รายวันนี้เกิดจาการทำงานร่วมกันอย่างดีที่เชื่อว่า 100% ช่วงเวลานี้มีความสำคัญยิ่ง หลายประเทศเพลี่ยงพล้ำนิดเดียวจนกลับมาระบาดเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้เราไม่ต้องการความเสี่ยงแม้แต่น้อย เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญที่สุดของเรา ขอให้พวกเราประสบความสำเร็จเหมือน 1 เดือนที่ผ่านมา

 3พ.ค. คลาย "ล็อกดาวน์" 6 กลุ่มกิจการ-กิจกรรม

สำหรับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดหลัง ยังมีมาตรการบางอย่างที่ต้องตรึงไว้ เพราะมีการขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ประกาศต่อไปถึงวันที่ 31 พ.ค. และมาตรการที่ยังตึงไว้ 1.เรื่องมาตรการเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหสถานในเวลา 22.00-04.00 น. 2. การเข้า-ออกราชอาณาจักรทั้งทางบก น้ำ อากาศ 

3.จำกัดการการบินเข้า-ออกระหว่างประเทศ โดยอนุญาตเฉพาะสายการบินที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าและรับคนไทยกลับประเทศออกไปอีก 1 เดือน 4.งดหรือชะลอการข้ามจังหวัดโดยที่ไม่มีเหตุจำเป็น และ5.ยึดแนวทางทำงานที่บ้านให้ได้  50% และ 6.ไม่ให้ประชาชนเข้าไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมากเป็นการชั่วคราว

นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยด้วยว่า มีสารจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. ได้เน้นย้ำว่า 1.การดำเนินการผ่อนปรนครั้งนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของคนไทยทั้งประเทศที่ได้ตัดสินใจร่วมกันแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ไปด้วยกัน ทั้งแพร่ระบาดและผลกระทบทางเศรษฐกิจ หากเราควบคุมสถานการณ์ทางสาธารณสุขในระยะแรกได้ ก็จะมีการดำเนินการผ่อนปรนในระยะต่อๆไปได้ 

2.ขอให้ทุกคนร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ ทำให้ประชาชนปลอดภัย บรรเทาความเดือนร้อนทางเศรษฐกิจ ค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพ และป้องกันการแพร่ระบาดไม่ให้เพิ่มมากขึ้น ให้ประเทศเดินหน้าได้ หากควบคุมได้ไม่ดีทุกอย่างจะแย่ลง ถือเป็นงานที่ท้าทาย แต่ถ้าเราทุกคน ผู้ประกอบการ ผู้รับบริการ ร่วมมือกันด้วยความตั้งใจมุ่งเน้นเรื่องการป้องกัน มีสำนึกในการรับผิดชอบต่อสังคม พึ่งพาเอื้อเผื่อแผ่แบ่งปันก็จะสำเร็จได้ 

3.ผอ.ศบค.ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมในคณะกรรมการพิจารณามาตรการผ่อนปรน ทั้งภาคธุรกิจ เอกชน ผู้ประกอบการ บุคลากรทางการแพทย์ ที่ร่วมกันให้ข้อเสนอและหามาตรการที่เหมาะสม ไม่ใช่คำสั่งหรือการตัดสินใจของนายกฯเพียงคนเดียว จากนี้เป็นหน้าที่คนไทยทั้งประเทศที่จะต้องร่วมมือกัน มาตรการครั้งนี้ถึงจะสำเร็จได้

 

สภาพัฒน์ เผยคิวต่อไป "ห้างสรรพสินค้า" เตรียมเปิด

 

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวถึงตัวชี้วัดการยกระดับผ่อนปรน 14 วันว่า การทำงานของเราได้มีการวิเคราะห์ความเสี่ยง เพราะกิจกรรมบางอย่างที่มีความเสี่ยงมากที่จะทำให้มีกลุ่มคนแออัด เช่น การจัดคอนเสิร์ต สนามมวย สนามบอล ส่วนนี้จะเก็บไว้ในระยะที่ 4 ส่วนระยะ 2 ระยะ 3 จะดำเนินการเมื่อไหร่นั้นอยู่ที่ตัวแปรคือถ้าเปิดแล้วมีผู้ติดเชื้อเพิ่มน้อยลง ก็จะไประยะสอง สาม ที่จะมีความเข้มข้นขึ้น อย่างการเปิดห้างสรรพสินค้า ต้องปฏิบัติตามเกณฑ์มาตรฐานต้องขออนุมัติท้องถิ่น จะมีระบบดูแลรายละเอียดชัดเจนมากขึ้น ปัจจัยสำคัญจึงอยู่ที่ระยะที่หนึ่ง เราจะไปเดินห้างได้ต้องมีความพร้อม ขณะนี้ให้ทางห้างสรรพสินค้า เตรียมตัวจัดการตัวเองไว้ เมื่อระยะหนึ่งผ่านไป จะเข้าสู่ระยะสองสาม

 3พ.ค. คลาย "ล็อกดาวน์" 6 กลุ่มกิจการ-กิจกรรม

"ก็ต้องบอกว่า ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ต้องเตรียมการ จัดร้านจะต้องปฏิบัติตามเกณฑ์มาตรฐาน โดยยื่นขออนุญาตเข้ามาที่ส่วนราชการท่องถิ่นก็จะอนุมัติให้ จากนั้นจะได้ QR code ติดหน้าร้าน คนใช้บริการจะต้องสแกนข้อมูล เพื่อดูแลรายละเอียดชัดเจน ใช้ดิจิทัลเข้ามาช่วยคำตอบของระยะต่อไปอยู่ที่ระยะที่หนึ่ง จะไประยะที่สองได้หรือ ต้องมีความพร้อม บอกโจทย์เลยว่าทุกห้างร้าน จัดเตรียมตัวเองไว้ เมื่อมีความพร้อมก็จะเข้าระยะที่สองและสามต่อไป"ดร.ทศพร กล่าว 

 

"หอการค้า" ระบุเตรียมออกคู่มือมาตรฐานกลางให้ผู้ประกอบการ

 

นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับร้านอาหารที่อนุญาตให้เปิดได้ คือร้านทั่วไปไม่เกิน 2 คูหา ตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์  ถ้าหากมีการเปิดแอร์ให้มีการดูดอากาศ ซึ่งจะมีคู่มือจากส่วนกลางให้ เช่น การจัดโต๊ะให้ห่าง ช่วงนี้ลำบากหน่อย ต้องจำกัดคน ไม่อยากให้ออกไปกันมาก 

 3พ.ค. คลาย "ล็อกดาวน์" 6 กลุ่มกิจการ-กิจกรรม

อย่างคำถามเรื่องการทานสุกี้ ชาบู อาจจะต้องทานคนเดียว หม้อใครหม้อมัน ขณะที่การผ่อนปรนแผงลอย ตลาดนัด ตลาดสดที่อนุญาตให้เปิดได้ทุกกิจการ แต่ต้องมีมาตรการร้านต้องทิ้งระยะห่างไม่ต่ำกว่า 1 เมตร ผู้ค้าต้องใส่หน้ากากมีเจลล้างมือทุกร้าน อย่างไรก็ตามหากไม่ปฏิบัติตามนี้จะยังไม่มีบทลงโทษแต่จะมีข้อตักเตือน อยากให้ช่วยกันตักเตือน ที่สำคัญอยากให้อยู่บ้านและเวิร์คฟอร์มโฮมมากที่สุด

"ร้านอาหารขนาดใหญ่และร้านอาหารภายในห้างสรรพสินค้ายังไม่อนุญาตให้เปิด สำหรับถนนคนเดินนั้น สามารถเปิดได้ ขอให้ผู้ประกอบการทิ้งระยะห่าง ใส่หน้ากากในการปฏิบัติ คนจัดสถานที่ต้องเผื่อระยะ ซึ่งอาจจะแตกต่างจากปกติที่ทำกันอยู่ อย่างไรก็ตามจะมีการออกคู่มือให้กับผู้ประกอบการ เพื่อเป็นคู่มือกลางในการนำไปช่วยได้ ทั้งนี้หากมีการฝ่าฝืนจะมีข้อตักเตือน ยังไม่มีโทษ ทุกคนต้องดูแลสุขภาพของแต่ละคน"