ลุ้นนายกฯปลดล็อกแหล่งท่องเที่ยวสัปดาห์หน้า

24 เม.ย. 2563 | 12:37 น.

“สธ.-ท่องเที่ยว”ตั้งคณะทำงาน เตรียมวางมาตรการเปิดแหล่งท่องเที่ยว ลุ้น “นายกฯ”ไฟเขียวปลดล็อกสัปดาห์หน้า

24 เมษายน 2563 ในการประชุมร่างข้อเสนอมาตรการพื้นฐานสำหรับประกอบการพิจารณาการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อวางมาตรการเตรียมความพร้อมหากมีการผ่อนปรนมาตรการ หรือ คลายล็อกประเทศ ระหว่างกระทรวงสาธารณสุข โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ร่วมกับ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมด้วยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ภายหลังการประชุมหารือร่วมกัน นายพิพัฒน์ รมว.ท่องเที่ยวฯ ให้สัมภาษณ์ว่า นายอนุทิน ได้ประชุมร่วมกันเพื่อเตรียมความพร้อมและวางมาตรการต่างๆหากรัฐบาลจะประกาศผ่อนคลายหรือขยายมาตรการล็อกดาวน์ต่อไปในวันที่ 28 เมษายนนี้ โดยทางกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้วางมาตรการต่างๆซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯไม่สามารถวางมาตรการใดได้ ในวันนี้จึงมาขอความร่วมมือจากสธ.ว่า ให้มีการดำเนินการเป็นเฟสๆหากทุกอย่างผ่อนคลายลงแล้ว โดยรัฐบาลเริ่มเปิดให้มีการกระทำบางอย่างได้ อาทิ การออกกำลังกายซึ่งจัดอยู่ในเฟสที่ 1 กิจกรรมกลางแจ้ง ไม่มีการสัมผัส หรือมีการเปิดสนามวิ่งออกกำลังกาย และจะต้องมีมาตรการป้องกันตัวเองส่วนบุคคล เป็นต้น ซึ่งในวันนี้ที่ประชุมได้ตั้ง คณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด โดยมี พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เป็นประธาน มีคณะกรรมการการกีฬา และการท่องเที่ยว เข้ามาร่วมด้วย

ในอนาคตข้างหน้าทั้งการท่องเที่ยวและกีฬา จะมีการสาธารณสุขเป็นลีดในการป้องกันตัวเพื่อให้ปลอดจากการติดโรคซึ่งการเกิดโรคระบาดในครั้งนี้เกิดจากการละเลย ไม่ป้องกันตัวเองแต่ด้วยวัฒนธรรมของไทยที่มีการไหว้ทักทายกัน ไม่ได้สัมผัสกันเช่นวัฒนธรรมตะวันตก ทำให้การแพร่ระบาดน้อย วันนี้กล้าพูดได้เลยว่า สาธารณสุขของเรา คือ อันดับ 1 ของโลก ด้วยมาตรการต่างๆและประชาชนให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอย่างดี และการควบคุมโรคอยู่ในระดับที่น่าพอใจอย่างมาก ท่านนายกฯ ก็มีความพอใจอย่างมาก สิ่งที่ต้องหารือ คือ เมื่อเปิดประเทศแล้วกระทรวงการท่องเที่ยวฯจะเดินไปอย่างไร โดยเบื้องต้นทางสธ.จะวางมาตรการในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้ ต่อมาคือ การจัดให้มีการท่องเที่ยวภายในประเทศก่อนเนื่องจากนอกประเทศยังมีการแพร่ระบาดอยู่ การท่องเที่ยวต่างประเทศยังเป็นไปได้ยาก อีกประการ คือ เรื่องของกีฬา ที่ไม่มีการสัมผัสตัวกันของผู้เล่น เช่น แบดมินตัน เทนนิส โดยมาตรการทั้งหมดนี้ต้องรอคณะกรรมการชุดที่ตั้งขึ้นมาพิจารณาว่าจะมีข้อกำหนดออกมาอย่างไร และเมื่อรัฐบาลจะเปิดผ่อนปรนมาตรการจะสามารถทำแต่ละเฟสได้เมื่อใด หรือ เปิดได้ทั้งหมดตอนไหน

ในการประชุมของคณะกรรมการชุดนี้จะมีการวางแผนประชุมมาตรการต่างๆในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ดี ต้องดูผลการประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าด้วยว่า รัฐบาลจะผ่อนปรน หรือ ขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปหรือไม่ ส่วนเรื่องของกรอบระยะเวลาการดำเนินงานนั้น ทางคณะกรรมการจะมีการหารือกันก่อน

ส่วนการวางมาตรการเบื้องต้นนั้นอาจมีการดำเนินการในจังหวัดที่ไม่เคยพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดมาก่อน หรือ ใน 32 จังหวัดที่ไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มในระยะเวลา 28 วัน ให้สามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้ โดยทางคณะกรรมการมีการเตรียมการต่างๆไว้แล้วเหลือเพียงแต่การพิจารณาของนายกฯว่าจะให้ผ่อนคลายเดินทางข้ามเขตกันได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯพร้อมเพราะได้มีการทำการบ้านไว้แล้ว อย่างไรก็ดี ต้องอยู่ภายใต้การกำกับของสธ.ด้วย

ด้านนายยุทธศักดิ์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นว่า ขณะนี้ทุกคนอยากท่องเที่ยวแล้วซึ่งจากข้อมูลล่าสุดที่คุยกับผู้ให้บริการด้านการจองที่พักโรงแรม รวมถึงบริการด้านการท่องเที่ยวต่างๆ พบว่า มีตัวเลขผู้ที่ไปค้นหาแหล่งท่องเที่ยวในเดือนพฤษภาคมสูงที่สุดซึ่งมากกว่าปกติ เพราะช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่ต้นเดือนพฤษภาคมมีช่วงวันหยุดยาวและอาจจะมีการปลดล็อก อย่างไรก็ดี รูปแบบการท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นนั้นจะเป็นการเดินทางแบบครอบครัวด้วยรถยนต์ส่วนตัวมากขึ้น เป็นการท่องเที่ยวระยะสั้น นักท่องเที่ยวกลุ่มเล็กลง ขณะที่การเดินทางด้วยเครื่องบินนั้น น่าจะได้รับความนิยมในระยะยาว หากมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆลงแล้ว

“ต่อไปนี้การท่องเที่ยวจะเป็นการเที่ยวกับคนในครอบครัว คนรู้จัก ซึ่งจะมีการปรับตัวกันพอสมควร เช่น การนั่งที่นั่งเว้นที่นั่ง การควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้าพัก รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวๆต่างๆ อย่างไรก็ดี การท่องเที่ยวรูปแบบนี้จะช่วยรักษาแหล่งธรรมชาติได้อีกทางหนึ่ง หากมีการเปิดเมืองก็จะเริ่มมีการเที่ยวภายในจังหวัด หรือ ในจังหวัดใกล้เคียงกันก่อน เป็นการเดินทางระยะสั้นๆ ท่องเที่ยวแบบพักค้าง 1 คืน ซึ่งก็ต้องประเมินกันอีกครั้ง”

พญ.พรรณพิมล อธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางกรมอนามัยจะใช้หลักการพิจารณา คือ 1.พื้นที่ลักษณะเปิด พื้นที่กลางแจ้ง 2.พื้นที่ปิด อากาศไม่ถ่ายเท และ 3.ความหนาแน่นของผู้เข้าใช้บริการ หรือ รูปแบบพฤติกรรม/กิจกรรมที่สัมผัสร่างกายกัน เป็นการเตรียมความพร้อมที่ใช้ปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน

ในการประชุมหารือครั้งนี้มุ่งเน้นเรื่องของการออกกำลังกาย สถานที่ท่องเที่ยว ที่ควรนำมาพิจารณาพร้อมมีเงื่อนไขในการเปิด มีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เช่น ในอุทยาน อาจมีการกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยว กำหนดกิจกรรมที่ทำ เพื่อไม่ให้มีการทำกิจกรรมในลักษณะของการรวมกลุ่มกัน

หลายเรื่องต้องเตรียมความพร้อม ต้องสร้างความเข้าใจกันก่อน ต้องมีการเทรน อาจมีบางพื้นที่เปิดได้ในต้นเดือนพฤษภาคม เช่น การออกกำลังกาย ที่ไม่ต้องทำอะไรมาก ไม่ยุ่งยากในการจัดการพื้นที่เปิด อากาศถ่ายเท ผู้เล่นไม่สัมผัสกัน ซึ่งเป็นหลักคิดในการผ่อนคลายมาตรการด้านนี้  พญ.พรรณพิมล ระบุ