กฟน.ผนึกเดลต้า ผุดแอพรับเทรนด์ EV

22 ม.ค. 2563 | 01:30 น.

การไฟฟ้านครหลวง ร่วมกับ เดลต้า เตรียมความพร้อมด้านเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า พร้อมทั้งพัฒนาแอพพลิเคชัน MEA EV หวังรองรับเทรนด์ EV ที่กำลังเติบโต

ผลจากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (Battery Electric Vehicle : BEV) และใช้รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle : PHEV) รวมถึงส่งเสริมการผลิต การวิจัยและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของประเทศ โดยตั้งเป้าว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 1.2 ล้านคัน (รวม PHEV และ BEV) วิ่งบนท้องถนนภายในปี  2579 จากนโยบายดังกล่าวบวกกับเทรนด์ของยานยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน ทำให้ผู้ประกอบการ ผู้บริโภค ผู้ที่อยู่ในภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เกิดการตื่นตัวและเตรียมแผนงานรองรับ 

 

ล่าสุดการไฟฟ้านครหลวง และเดลต้า ได้จับมือเป็นพันธมิตรกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งหวังให้ผู้ขับขี่ภายในประเทศไทยหันมาเลือกใช้การคมนาคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากและผลักดันประเทศไทยให้ไปสู่การเป็นประเทศที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก พร้อมทั้งสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ 

กฟน.ผนึกเดลต้า ผุดแอพรับเทรนด์ EV

 นายวีรวัจน์ บัวทอง รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA กล่าวว่า MEA ในฐานะที่เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ที่ต้องการขับเคลื่อนการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ดังนั้นจึงเตรียมความพร้อมรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่จะมาทดแทนรถยนต์น้ำมันในอนาคตอันใกล้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ลงนามกับบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นโอกาสสำคัญของการยกระดับความสะดวกในการเข้าถึงสถานีอัดประจุไฟฟ้าในประเทศไทย 

 

การจับมือกันในครั้งนี้  MEA และ เดลต้า จะร่วมกันเตรียมความพร้อมด้านเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้แก่ผู้บริโภคในการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า เช่น การเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างเครื่องอัดประจุไฟฟ้าของเดลต้ากับเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าของ MEA การพัฒนา MEA EV application อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าที่บ้านหรือสำนักงาน การเลือกใช้อุปกรณ์อัดประจุไฟฟ้าแบบต่าง ๆ และการติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้อย่างประหยัดและปลอดภัย

 

"ทาง  MEA จะเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านระบบไฟฟ้าเพื่อสร้างความมั่นใจและสร้างความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าของเดลต้าอีกด้วย"

กฟน.ผนึกเดลต้า ผุดแอพรับเทรนด์ EV

นายเซีย เชน เยน ประธานบริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA ในวันนี้ จะช่วยนำเสนอวิถีชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการเชื่อมต่อกับนวัตกรรมให้กับคนไทย ด้วยความสามารถหลักของเดลต้าในด้านการแปลงและจัดการพลังงาน ช่วยให้สามารถพัฒนาโซลูชันการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยมาตรฐานความปลอดภัยและการปฏิบัติงานระดับสากล ซึ่งผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และไทย สามารถใช้งานเครื่องชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพของเดลต้าได้อย่างง่ายดาย

กฟน.ผนึกเดลต้า ผุดแอพรับเทรนด์ EV

การลงนามในบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ใช้งาน MEA EV application สามารถเข้าถึงเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเดลต้าในประเทศไทยได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเดลต้าได้ติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC Fast Charger) และเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Charger) ในสถานที่สาธารณะหลายแห่งทั่วประเทศไทย รวมถึงร้านตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ นิคมอุตสาหกรรม สำนักงาน สถาบัน และศูนย์การศึกษาต่าง ๆ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถใช้งาน MEA EV application สามารถค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้าการจองหัวชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าได้แบบเรียลไทม์ 

 

พร้อมควบคุมการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าผ่านระบบรีโมทด้วยแอปพลิเคชันทันที รวมถึงชำระเงินค่าบริการด้วยสมาร์ทโฟนได้ทั่วประเทศ อีกทั้งยังแจ้งข้อมูลประวัติการชาร์จ การคำนวณอัตราการประหยัดพลังงาน รวมถึงฟังก์ชันอื่น ๆ ที่จะจัดทำเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกในอนาคต

กฟน.ผนึกเดลต้า ผุดแอพรับเทรนด์ EV

"ลูกค้าหรือผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลด MEA EV application ทั้งในระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ได้ที่ https://goo.gl/F6C5bV นอกจากนี้ MEA และเดลต้า จะทำงานร่วมกันเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลเครื่องอัดประจุไฟฟ้าตามสถานที่สาธารณะและโซลูชันการจัดการของเดลต้าจากเซิร์ฟเวอร์ของ MEA (ตามมาตรฐาน OCPP) ไปยัง MEA EV เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า"