กทม.พัฒนาแอป BKK HI Care รับผู้ป่วย COVID-19 รักษาตัวที่บ้าน

20 ก.ค. 2564 | 18:59 น.

กทม.เตรียมพัฒนาแอปพลิเคชัน BKK HI Care รองรับผู้ป่วย COVID-19 รักษาตัวที่บ้าน Home Isolation พร้อมจัดทีมแพทย์ให้คำแนะนำ จัดส่งยา-อุปกรณ์ต่างๆถึงบ้าน ส่วนผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่มีสมาร์ทโฟนสามารถโทรแจ้งรายงานอาการกับแพทย์ได้

กทม. ได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พัฒนาแอปพลิเคชัน BKK HI Care ระบบบริหารจัดการผู้ป่วย Home Isolation เพื่อจัดทำทะเบียนข้อมูลรายบุคคล สามารถติดตามและดูแลผู้ป่วยที่กักตัวที่บ้านได้อย่างใกล้ชิด โดยผู้ป่วยสามารถรายงานอาการและรับคำแนะนำการรักษาที่ถูกต้องจากแพทย์และพยาบาล ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ  BKK HI care ซึ่งสามารถติดตามอาการและดูแลผู้ป่วย COVID-19 ได้อย่างใกล้ชิดเช่นกัน


โดยระบบ BKK HI care ถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายและมีเครื่องมือที่ช่วยบริหารจัดการผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถลงทะเบียนผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟน โดย 1 เครื่องสามารถลงทะเบียนใช้งานได้มากกว่า 1 คน 


ส่วนผู้ป่วยที่ไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนสามารถโทรแจ้งรายงานอาการกับบุคลากรทางการแพทย์ได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบคาดว่าจะสามารถใช้แอปพลิเคชันดังกล่าวได้ในเร็ววันนี้  โดยระบบดังกล่าวทาง “สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) เป็นผู้ดำเนินงาน และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช) เป็นผู้พัฒนาและสนับสนุนทางเทคนิค
 

กทม. ยังได้บูรณาการความร่วมมือกับกองทัพบก กองบัญชาการตำรวจนครบาล และเครือข่าย จิตอาสา ในการร่วมดูแลผู้ป่วย ที่กักตัวที่บ้าน โดยจะช่วยเหลือนำยาและอุปกรณ์การรักษาเบื้องต้นไปส่งมอบให้แก่ผู้ป่วยที่พักอาศัย รวมทั้งจัดรถสำหรับรับส่งผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาหรือส่งผู้ป่วยที่หายแล้วกลับบ้านอีกด้วย

ระบบบริการผู้ป่วยที่สามารถดูแลแยกกักรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation : HI)
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน ทำให้มีผู้ป่วยที่รอเตียงหรือผู้ป่วยตกค้างในชุมชนจำนวนมาก เพื่อเป็นการดูแลผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการนำส่งเข้าสู่ระบบการรักษา กทม. จึงจัดระบบบริการผู้ป่วยที่สามารถดูแลแยกกักรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation : HI) โดยเน้นการดูแลรักษาสำหรับผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย 


สำหรับผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวจะมีบุคลากรทางการแพทย์เป็นผู้ดูแลติดตามผู้ป่วย ซึ่งจะได้รับการประเมินอาการทุกวันๆ ละ 2 ครั้ง อาหาร 3 มื้อ พร้อมทั้งได้รับปรอทวัดไข้แบบดิจิตอล เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว และพิจารณาให้ฟ้าทะลายโจร หรือ ยาฟาวิพิราเวียร์ ตามดุลพินิจของแพทย์ ในกรณีที่อาการแย่ลงจะมีการประสานส่งต่อรักษาที่โรงพยาบาล 
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง

ทั้งนี้ผู้ป่วยที่สามารถดูแลแยกกักรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation : HI) ต้องมีลักษณะอาการดังนี้

 

  • เป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ (Asymptornatic case) อายุไม่เกิน 60 ปี
  • ผู้ป่วยและคนที่พักอาศัยด้วยกันต้องไม่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคไตเรื้อรัง ระยะ3,4,5 โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ และโรคอื่นๆตามดุลยพินิจของแพทย์ 
  • ที่พักอาศัยมีพื้นที่ที่เหมาะแก่การกักตัว 

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มอบหมายสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต สำรวจและเร่งดำเนินการดูแลผู้ป่วยที่รอเตียงหรือผู้ป่วยตกค้างในชุมชนให้เข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็วที่สุด