“ฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อ” กระทรวงสาธารณสุข ชง ศบค. เคาะ 2 สูตร

15 ก.ค. 2564 | 19:23 น.

“ฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อ” กระทรวงสาธารณสุข ชงเรื่องให้ ศบค.ชุดใหญ่ที่นายกฯนั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน พิจารณาเคาะสูตรฉีดวัคซีนโควิด ซิโนแวค และ แอสตร้าเซนเนก้า อย่างเป็นทางการ

จากกรณีที่ มติการประชุมคณะกรรมการด้านวิชาการ ยืนยันสนับสนุนคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ หรือ คกก. เห็นชอบการให้วัคซีนโควิด 19 สลับชนิด เข็มที่ 1 เป็น ซิโนแวค ตามด้วยวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า เป็นเข็มที่ 2 ระยะห่าง 3-4 สัปดาห์

 

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (16 ก.ค.)  กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอ 2 สูตร "ฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อ" เข้าที่ประชุมศบค. ที่มี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน สำหรับฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อ  

 

วัคซีนสลับยี่ห้อมีดังนี้

  • วิธีแรก ซิโนแวค+แอสตร้าเซนเนก้า
  • วิธีที่ 2 แอสตร้าเซนเนก้า+แอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งในวิธีที่ 2 นี้เหมาะจะใช้กับผู้สูงอายุมากกว่า

 

ขณะที่ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการวิชาการ ภายใต้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ได้มีการประชุมถึงแนวทางการให้วัคซีนสลับชนิดหรือฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อกันอีกครั้ง หลังจากที่รัฐบาลได้ขอให้พิจารณาประเด็นนี้อย่างรอบคอบ 

 

ภายหลังมีคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ตลอดจนการประชุมหารือของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในที่ประชุมยังยืนยันมติเดิมในเรื่องการให้วัคซีนสลับชนิดที่สามารถดำเนินการได้

 

โดยจะมีการนำเสนออีกครั้งในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานที่ประชุมพิจารณาเรื่อง "ฉีวัคซีนสลับยี่ห้อ"

 

 

“พอผู้ใหญ่ทักมา ว่าให้เราดูข้อมูลให้ละเอียดรอบคอบ เพราะ WHO ออกมาพูด ซึ่งคณะกรรมการวิชาการ ก็นำเสนอต่อที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุข และบ่ายนี้ ก็ประชุม ศบค.ของกระทรวงสาธารณสุข ก็ยังมีมติในทิศทางเดิม คือควรได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า โดยห่างกัน 3-4 สัปดาห์ จะเสนอ ศบค.พรุ่งนี้ คาดว่าจากการพิจารณาอย่างรอบคอบ หลายคณะกรรมการที่เห็นชอบตรงกันนี้ จะเริ่มดำเนินการได้ต้นสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป” นพ.โสภณ กล่าว

ส่วนที่หน่วยบริการวัคซีนบางแห่ง โดยเฉพาะในต่างจังหวัด มีการฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อ ไปแล้วนั้น นพ.โสภณ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้สื่อสารไปแล้วว่าแนวทางดังกล่าวไม่ได้ขัดกับมติของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เพียงแต่เมื่อนายกรัฐมนตรี ได้ขอให้มีการพิจารณาข้อมูลให้รอบคอบอีกครั้ง ซึ่งภายหลังคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ก็ยังคงยืนยันแนวทางการฉีดวัคซีนตามมติเดิม

 

“ดังนั้นเมื่อมีการนำมติดังกล่าวเข้าที่ประชุม ศบค.พรุ่งนี้ หากนายกฯ เห็นชอบแล้ว กระทรวงฯ จะแจ้งอย่างเป็นทางการอีกที ส่วนหน่วยที่ดำเนินการไปแล้ว หรือดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ก็ถือว่าดำเนินการตรงกับที่คณะกรรมการโรคติดต่อได้ให้มติไว้ตั้งแต่แรก” นพ.โสภณกล่าว

ด้าน นายแพทยพรเทพ ศิริวนารังสรรค์ นายกสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ในฐานะ 1 ใน 7 คณะกรรมการวิชาการตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ กล่าวตอนหนึ่งในการเสวนาวัคซีนโควิด19สำหรับสื่อมวลชนวันที่ 15 ก.ค.2564 ว่า จะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ เมื่อวัคซีนมีแค่นี้ เราก็ต้องใช้ประโยชน์ให้ดีที่สุด โดยต้องใช้ซิโนแวคบวกกับแอสตร้าฯ เพื่อควบคุมเดลตาให้ได้

ด้วยการฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันในการป้องกัน คือ การฉีดซิโนแวค 1 เข็ม รออีก 3-4 สัปดาห์ฉีดตามด้วยแอสตร้าฯ เป็นเข็มที่ 2 ส่วนใครเคยฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ให้รอสักประมาณ 1 เดือน แล้วค่อยไปกระตุ้นเข็ม 3

แต่ผู้รอกระตุ้นเข็ม 3 ขอให้ใจเย็นๆ เราจะให้กับเจ้าหน้าที่ บุคลากรด่านหน้าที่อยู่กับคนไข้ เพื่อให้พวกเขาฉีดก่อนป้องกันไม่ให้เขาป่วยรุนแรง จนเสียชีวิต หากเจ้าหน้าที่ป่วย จะไม่มีคนมาดูแล เจ้าหน้าที่ทั้งหมดมี 7 แสนคน เลือกกลุ่มด่านหน้าก็ไม่ทั้งหมด ดังนั้น กลุ่มอื่นๆ ขอให้รอก่อน