สปสช.อนุมัติช่วยแล้ว 4 แสนบาท เคสชายปทุมธานีเสียชีวิต 'แพ้วัคซีนโควิด'  

วันที่ 2 มิถุนายน 2564 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 4 สระบุรี จัดประชุม คณะอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหาย จากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19) ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบ ZOOM

โดยมี นพ.ชลอ ศานติวรางคณา ผู้อำนวยการ สปสช.เขต 4 สระบุรี เป็นประธานและดำเนินการประชุม มีอนุกรรมการเข้าร่วมครบองค์ประชุม ประกอบด้วย พญ.ปองรัตน์ นิรมิตหาปัญญา นพ.สราวุธ ครองสัตย์ นางลักษณา ศังขชาต และนายเอนก มณีนาค มีนายจักรินทร์ ฆ้องวงษ์ สปสช.เขต 4 สระบุรี เป็นเลขานุการ

ยึดหลักการช่วยเบื้องต้น ไม่ต้องพิสูจน์ถูกผิด

นพ.ชลอ กล่าวว่า การพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีประชาชนไทยทุกคนและทุกสิทธิการรักษาที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามแผนงานโครงการที่ภาครัฐจัดให้แล้วได้รับความเสียหาย ได้รับผลกระทบหรือเสียชีวิต สามารถยื่นคำร้องได้ทันที ไม่ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ เพราะเป็นการใช้หลักการช่วยเหลือเบื้องต้น ไม่ต้องพิสูจน์ถูกผิด อาจเป็นเรื่องของเหตุสุดวิสัย และเมื่ออนุกรรมการพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือไปแล้ว ภายหลังหากพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วพบว่าไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เราก็จะไม่เรียกเงินคืนเนื่องจากถือว่าเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งเป็นกลไกทางสังคมในการให้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่กลไกทางการแพทย์ที่พิสูจน์สาเหตุ จึงต้องมีความรวดเร็วเพื่อบรรเทาผลที่เกิดขึ้น

นพ.ชลอ กล่าวต่อว่า ในการพิจารณาเมื่อคณะอนุกรรมการได้รับเรื่องและมีมติอนุมัติช่วยเหลือแล้วนั้น จะพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือภายใน 5 วัน ซึ่งจะครอบคลุมเฉพาะวัคซีนโควิด-19 ที่รัฐบาลจัดหาให้เท่านั้น โดยมีเกณฑ์จ่ายในกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรจะได้รับการช่วยเหลือไม่เกิน 4 แสนบาท กรณีสูญเสียอวัยวะหรือพิการช่วยเหลือไม่เกิน 2.4 แสนบาท และกรณีเกิดภาวะเจ็บป่วยที่ต้องรับการรักษาไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งจะช่วยเหลือจำนวนเท่าใดนั้น เป็นการพิจารณาของอนุกรรมการฯ ตามภาวะความรุนแรง

ทั้งนี้ในพื้นที่เขต 4 สระบุรี ซึ่งรับผิดชอบ 8 จังหวัดได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง และนครนายก ได้มีการพิจารณาการจ่ายเงินช่วยเหลือแล้ว จำนวน 8 ราย รวมเป็นเงิน 469,500 บาท เป็นชาย 2 ราย และหญิง 6 ราย โดยส่วนใหญ่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย จำนวน 4 ราย คิดเป็นร้อยละ 50 เจ็บป่วยรุนแรงที่ต้องนอนโรงพยาบาล 3 ราย คิดเป็นร้อยละ 37.5 และเสียชีวิต 1 ราย คิดเป็นร้อยละ 12.5 อายุระหว่าง 23-50 ปี อายุน้อยสุด 23 ปี และอายุมากที่สุด 50 ปี 

ชายปทุมธานี อายุ 50 เสียชีวิตหลังรับวัคซีน 5 วัน

"กรณีผู้ที่เสียชีวิต คือ นายสมชาย ม่วงวัง อายุ 50 ปี รับวัคซีนโควิด-19 ที่จังหวัดปทุมธานี คณะอนุกรรมการพิจารณามีความเห็นว่าได้รับความเสียหาย เป็นอาการที่เกิดหลังจากการรับวัคซีน มีอาการแน่นหน้าอกตลอด และเสียชีวิตหลังได้รับวัคซีน 5 วัน และผู้ได้รับผลกระทบเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องเป็นผู้ดูแลบิดา มารดา และเป็นผู้หารายได้หลักของครอบครัว จึงลงมติเสนอจ่ายเงินช่วยเหลือ 400,000 บาท” นพ.ชลอ กล่าว

ทั้งนี้หากประชาชนที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 สงสัยว่าจะมีอาการเจ็บป่วยที่มีเหตุจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 รวมถึงในกรณีที่เสียชีวิต ทั้งตัวผู้ฉีดวัคซีนหรือญาติสามารถยื่นคำร้องได้ที่โรงพยาบาลที่รับฉีดวัคซีน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และสำนักงาน สปสช. ได้ทันที โดยจะมีคณะอนุกรรมการฯ ระดับพื้นที่พิจารณาคำร้อง หรือสามารถติดต่อผ่านช่องทางโซเชียลได้ที่ Facebook สปสช.เขต 4 สระบุรี ตลอดเวลา

4 มิ.ย.พิจารณาคำร้อง เคส'ผู้ใหญ่บ้าน จ.แพร่'

นอกจากนี้ ในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ คณะอนุกรรมวินิจฉัยคำร้องฯ ระดับพื้นที่ เขต1 เชียงใหม่ จะประชุมเพื่อพิจารณาคำร้อง กรณีที่ผู้ใหญ่บ้าน จ.แพร่ เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งหลังประชุมพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือฯ สปสช.จะจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นโดยเร็วภายในระยะเวลา 5 วัน โดยไม่ต้องรอผลพิสูจน์ทางการแพทย์

ผู้เสียชีวิตคือ นายอุดร เย็นจิตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.ห้วยม้า อ.เมืองแพร่ เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ต่อมาคืนวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 มีอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน นำส่งตัว รพ.แพร่ และต่อมาได้เสียชีวิตลงนั้น

นพ.เติมชัย เต็มยิ่งยง ผู้อำนวยการ สปสช. เขต 1 เชียงใหม่ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา สปสช.ได้ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ (สสจ.) โรงพยาบาลแพร่ และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองแพร่  ได้ลงพื้นที่บ้านหมู่ 6 ต.ห้วยม้า อ.เมืองแพร่ เพื่อเยี่ยมบ้านครอบครัวผู้เสียชีวิต

ทาง สปสช. ได้รับคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนโควิด-19 ของครอบครัวของนายอุดรแล้ว ข้อมูลความเดือดร้อน ความเสียหายและเศรษฐานะของครอบครัวผู้เสียชีวิตที่ได้มาเก็บเพิ่มเติมในวันนี้ จะถูกนำไปใช้เพื่อประกอบการพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นต่อไป

โดยคณะอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องฯ ระดับพื้นที่ เขต 1 เชียงใหม่ กำหนดประชุมเพื่อพิจารณาคำร้องฯ ในวันที่ 4 มิถุนายน นี้ หลังประชุมพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น สปสช.จะจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นโดยเร็วภายในระยะเวลา 5 วัน

"การจ่ายเงินดังกล่าว ถือหลักว่าเป็นเงินที่จ่ายช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยไม่ต้องพิสูจน์ถูกผิด ไม่ต้องรอผลพิสูจน์ทางการแพทย์และความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจเป็นเหตุสุดวิสัย หากผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่จัดสรรโดยรัฐบาลได้รับความเสียหาย เจ็บป่วยหรือเสียชีวิต สามารถติดต่อ สปสช.เพื่อยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ทันที”

นพ.เติมชัย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา สปสช.เขต 1 เชียงใหม่ ได้ประชุมคณะอนุกรรมการฯ เพื่อพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายไปแล้ว 2 ครั้ง ในวันที่ 19 และ 28 พฤษภาคม พิจารณาช่วยเหลือไปแล้วจำนวน 77 ราย เป็นจำนวนเงินช่วยเหลือจำนวน 242,000 บาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความเสียหายเล็กน้อย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประกาศแล้ว! หลักเกณฑ์ช่วยกรณีแพ้วัคซีนโควิด จ่ายสูงสุด 4 แสน

เปิดเงื่อนไข"เยียวยาแพ้วัคซีนโควิด"สปสช.เตรียม 100 ล้าน มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 5 เม.ย