“พิษณุโลก”พบติดโควิดรายใหม่พุ่งพรวด 12 ราย หลังปลอดเชื้อมา 10 วัน

30 พ.ค. 2564 | 09:37 น.

“พิษณุโลก”เครียดอีก พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง พุ่งพรวด 12 ราย หลังปลอดเชื้อมา 10 วัน ไทม์ไลน์พบจัดอบรมสัมมนาเป็นกลุ่มใหญ่

วันนี้(30 พ.ค.64)  เพจสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก รายงานว่าจากสถานการณ์โรคโควิด-19 จังหวัดพิษณุโลก ประจำวันที่ 29 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย ในเขต อ.เมืองพิษณุโลก รวมยอดสะสม 316 ราย พบว่า ไทม์ไลน์ของผู้ป่วย หญิงไทย อายุ 52 ปี เป็นพนักงานบริษัทฯ แห่งหนึ่ง ที่ออกพื้นที่หาลูกค้าในเขต อำเกอเมือง และมีประวัติเสี่ยง พบว่าเพื่อนร่วมงานไปต่างจังหวัดกลับมา แล้วมีอาการป่วย และมีวิทยากรจาก จ.นนทบุรี มาร่วมประชุมที่บริษัท ผลทางห้องปฏิบัติการ ผู้ป่วยยืนยัน โควิด-19 ล่าสุดจากการลงพื้นที่สอบสวนโรคช่วงเช้าวันนี้ พบว่า มีผู้เสี่ยงสูง 22 ราย

ผลตรวจโควิด-19 จังหวัดพิษณุโลก วันที่ 30 พฤษภาคม 2564 เวลา 15.00 น. พบผู้ป่วยรายใหม่ 11 ราย ที่ อ.เมืองพิษณุโลก รวมยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 วัน 29-30 พฤษภาคม จำนวน 12 ราย หลังจากก่อนหน้านี้จังหวัดพิษณุโลก ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่องเป็นเวลา 10 วัน

รวมยอดสะสมโควิดระลอกที่ 3 ของพิษณุโลก 327 ราย รักษาหายแล้ว 304 ราย ยังคงรักษาอยู่ 23 ราย

 

ในขณะที่ประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลก ได้กลับมาวิตกกังวลกันอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมาทุกคนได้ช่วยกันป้องกันตัวเองและป้องกันจากบุคคลอื่น ทำให้ปลอดเชื้อได้ถึง 10 วัน และเตรียมตัวที่จะดำเนินชีวิตกันต่อ เช่นผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านค้า ที่เตรียมตัวจะเปิดร้านค้า-ขาย ทำให้ต้องชะงักตัวลงและรอผลการประชุมและแถลงข่าวจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิษณุโลก ที่จะมีขึ้นในวันที่ 31 พ.ค.2564 เวลา 15.30 น. ว่าจะเป็นเช่นไร


นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ประชาชน ร่วมกันกวดขันและสอดส่องการเดินทางเข้ามาของประชาชนต่างพื้นที่อย่างเข้มข้น โดยยึดคำสั่งของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่ออย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค 

โดยยึดมาตรการ ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่ควบคุมสูงสุด เมื่อเดินทางเข้ามาจังหวัดพิษณุโลก ต้องลงทะเบียนโปรมแกรม Save Phitsanulok หรือแจ้งต่อพนักงานควบคุมโรคในพื้นที่ และต้องกักตัวเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน ในสถานที่กักกันทางเลือกตามที่จังหวัดกำหนด โดยผู้กักตัวต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง กรณีประสงค์จะกักตัวที่บ้านต้องจัดให้มีห้องหรือสถานที่กักตัวแยกจากครอบครัวชัดเจน หากไม่สามารถดำเนินการได้ จะต้องกักตัวคนในครอบครัวด้วย