ยังน่าห่วง ผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 ใกล้ทะลุ 13,000 ราย วันนี้ติดเชื้อเพิ่ม 1,117 ราย

19 พ.ค. 2564 | 07:15 น.

"อธิบดีกรมราชทัณฑ์" เปิดตัวเลขผู้ต้องขังจากเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศอยู่ระหว่างการรักษา รวม 12,767 ราย วันนี้พบติดเชื้อใหม่ 1,117 ราย จากเรือนจำ 2 แห่ง

19 พฤษภาคม 2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แถลงข่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 ว่า จากข้อมูล ณ วันที่ 18 พ.ค.2564 เวลา 11.00 น. มีผู้ต้องขังติดเชื้ออยู่ระหว่างการรักษา รวม 12,767 ราย จากเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ จำนวน 11 แห่ง โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ จำนวน 1,117 ราย อีก 2 แห่ง ไม่พบผู้ติดเชื้อแล้ว คือ เรือนจำจังหวัดนราธิวาส และเรือนจำอำเภอแม่สอด

ดังนั้น จะพบเรือนจำที่มีผู้ต้องขังติดเชื้อ 1.เรือนจำกลางเชียงใหม่ 2.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 3.ทัณฑสถานหญิงกลาง 4.เรือนจำกลางคลองเปรม 5.เรือนจำพิเศษธนบุรี 6.เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา 7.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง 8.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี 9.เรือนจำพิเศษมีนบุรี 10.เรือนจำกลางสมุทรปราการ และ 11.เรือนจำกลางบางขวาง

นายอายุตม์ กล่าวว่าได้สั่งการให้เรือนจำตั้งศูนย์แก้การระบาดโควิดประจำเรือนจำ มอบนโยบายให้ทุกแห่งจัดโรงพยาบาลสนามให้ตรวจหาเชื้อโดยเร็วหากพบเชื้อเอ็กเรซย์ ปอดจัดหายารักษาป้องกันไม่ให้เชื้อลงปอด จำกัดวงการแพร่กระจายให้เพิ่มคลอรีนที่อาบน้ำเพื่อความสะอาด ให้ตรวจหาเชื้อทุกคนค้นหาผู้ต้องขังที่ไอ มาตรวจก่อน

ส่วนกรณีการปล่อยตัวผู้ต้องขังทั้งพักการลงโทษ ลดวันต้องโทษ หรือได้รับการประสานงานจากศาลยุติธรรมในการประกันตัว หรือปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งก่อนการปล่อยตัวจะให้เรือนจำประสานงานกับสาธารณสุขในพื้นที่เพื่อส่งต่อพี่น้องผู้ต้องขังไปยังพื้นที่สาธารณสุขโดยด่วน

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนการแพร่ระบาด โควิดที่เข้าสู่เรือนจำ อาจเกิดจากการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามระเบียบการเฝ้าระวัง และการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อจากเจ้าหน้าที่ เนื่องจากกรมราชทัณฑ์ได้สั่งการมาโดยตลอด เกี่ยวกับมาตรการ “คนในไม่ให้ออก คนนอกไม่ให้เข้า” โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่อาจเป็นพาหะนำเชื้อเข้ามาสู่เรือนจำ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเจ้าหน้าที่บางคนอาจต้องไปเฝ้าผู้ป่วยที่โรงพยาบาลและติดเชื้อมา ถือว่าเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ จะไม่ให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานข้างนอกเข้าไปยังแดนต่าง ๆ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ภายในแดน หากเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงและไม่ปฏิบัติตามมาตรการของกรมราชทัณฑ์ จะดำเนินการสอบสวนและลงโทษทางวินัยตามขั้นตอน ทั้งนี้ ได้สั่งการไปยังเรือนจำทั่วประเทศ ให้แจ้งข้อมูลกับญาติผู้ต้องขังเป็นระยะ รวมทั้งความคืบหน้าอาการป่วยของผู้ต้องขัง โดยสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์ หรือช่องทางอื่น ๆ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง