สธ.ไฟเขียวประชาชน“วอล์คอิน”ฉีดวัคซีนโควิด-19 เดือนมิ.ย.

12 พ.ค. 2564 | 08:16 น.

“บอร์ดวัคซีน”ไฟเขียวเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 เปิดให้ประชาชน “วอล์คอิน”โดยไม่ต้องนัดหมาย เริ่มต้น มิ.ย.นี้ จัดสัดส่วนตามความเหมาะสม ตั้งเป้า 150 ล้านโดส

วันนี้ (12 พ.ค.64) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบใน 3 ประเด็นหลัก คือ 

1.เพิ่มจำนวนวัคซีนจากเป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้ 100 ล้านโดส เป็น 150 ล้านโดส ภายในปี 2565 

2.เร่งทำงานเชิงรุกเพื่อให้การเจรจาจัดซื้อวัคซีนให้คืบหน้ารวดเร็ว ซื้อให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มโอกาสฉีดวัคซีนที่ดีที่สุดครอบคลุมถึงการกลายพันธุ์หรือสายพันธุ์อื่นๆ  

3.ปรับแนวทางการฉีดวัคซีนให้ปูพรมฉีดเข็มแรกให้กับประชาชนให้มากที่สุด เพื่อเป็นการลดโอกาสในการติดเชื้อและความรุนแรงของโรค เพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตให้เข้าถึงวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว 

รวมถึง มีมติให้ปรับแผนการฉีดวัคซีน ปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชน โดยเริ่มต้นในเดือนมิถุนายนนี้ ผ่าน 3 ช่องทาง คือ 

1.กลุ่มที่มีการลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นหรือ ไลน์แอด หมอพร้อม

2.การจัดขอเข้ารับวัคซีนเป็นกลุ่มหมู่คณะ เช่น ในโรงงานหรือสถานประกอบการขนาดใหญ่

และ 3.เปิดให้ประชาชนทั่วไป ได้เลยโดยไม่ต้องนัดหมายล่วงหน้า ตามจุดบริการต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาสำหรับประชาชนบางกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี หรือติดปัญหาในการจองฉีดวัคซีน ให้เข้าถึงได้มากที่สุด  

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคเงินและทรัพย์สินให้กับสถาบันวัคซีนแห่งชาติในการสนับสนุนการวิจัยการผลิตและการกระจายวัคซีนให้มีคุณภาพและปริมาณที่เพียงพอเพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้กับประชาชนบริษัทห้างร้านต่างๆที่มีจิตศรัทธาจะสนับสนุนการวิจัยพัฒนาวัคซีนป้องกันโรค 
สำหรับวัคซีนที่ภาคเอกชนกำลังจัดหาเพื่อเป็นทางเลือกในขนาดนี้ยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการดำเนินการขององค์การเภสัชกรรมในการประสานข้อมูลทั้งนี้ต้องเป็นวัคซีนที่ผ่านการขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการอาหารและยาแล้วเท่านั้นจึงจะสามารถนำเข้าได้

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า แผนการปูพรมฉีดวัคซีนให้ประชาชนนั้นทางกรมควบคุมโรคมีแผนต้องฉีดวัคซีนในครอบคลุมร้อยละ 70 ของจำนวนประชาชนในแต่ละจังหวัด โดยพื้นที่ซึ่งมีการระบาดเช่นกรุงเทพมหานครและปริมณฑลแต่ก็เป็นไปตามความสมัครใจในการรับวัคซีน 

แผนที่จะให้ประชาชนสามารถเข้ามารับวัคซีนได้โดยไม่ต้องนัดหมายนั้น จะเน้นกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้มีประวัติการรักษาในสถานพยาบาล เป็นบุคคลกลุ่มอาชีพเสี่ยงเช่นกลุ่มพนักงานขับรถโดยสาร คนขับรถแท็กซี่ โดยสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนตามจุดต่างๆที่จัดให้เป็นจุดวัคซีน ซึ่งเป็นสถานที่เปิดโล่งมีระบบระบายอากาศมีระบบระบายอากาศและรองรับคนจำนวนมากได้เพื่อลดความแออัดเช่นสถานีกลางบางซื่อ จามจุรีสแควร์ เซ็นทรัลลาดพร้าว เดอะมอลล์บางกะปิ

มีการแบ่งสัดส่วนของการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในแต่ละจุดแตกต่างกันตาม สถานการณ์และการประเมินของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนั้นๆ เช่น อาจกำหนดให้กลุ่มที่มีการนัดหมายผ่าน LINE แอดหมอพร้อมหรือแอพพลิเคชั่นหมอพร้อม ร้อยละ 30 กลุ่มประชาชนที่ทางโรงพยาบาลประสานร้อยละ 50 และผู้ที่เดินทางเข้ารับวัคซีนด้วยตนเองโดยมิได้นัดหมายร้อยละ 20 โดยการเข้ารับวัคซีนนั้นจะใช้เกณฑ์ตามข้อบ่งชี้การใช้ทางการแพทย์ ไม่มีการเลือกยี่ห้อวัคซีนเองได้

ทั้งนี้ หากจังหวัดใดมีความพร้อมทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สามารถดำเนินการได้ทันที ซึ่งหลังการเข้ารับวัคซีนแล้วประชาชนต้องลงทะเบียนเพื่อติดตามผลและประเมินอาการผ่านแอพพลิเคชั่นหรือ LINE แอด หมอพร้อม ส่วนกรณีไม่มีแอพพลิเคชั่นในการติดตามผลจะมีเจ้าหน้าที่ สาธารณสุขหรือโรงพยาบาลเป็นผู้ติดตามอาการหลังการรับวัคซีน

ส่วนกลุ่มอื่น เช่น กลุ่มเปราะบางกลุ่มคนด้อยโอกาส ทุกคนต้องได้รับวัคซีน แน่นอน แต่อยู่ในระหว่างจัดทำแผนรองรับเพื่อความมั่นใจในการเข้ารับวัคซีน ที่ปลอดภัย ชาวต่างที่อยู่ในประเทศไทย จะประสานผ่านทางกระทรวฃการต่างประเทศในการแจ้งเข้ารับวัคซีน ส่วนกลุ่มแรงงานต่างด้าวจะจัดฉีดวัคซีนในกลุ่มที่มีโอกาสเกิดการระบาดเช่นในโรงงานขนาดใหญ่ ตลาดใหญ่ เพื่อการควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่นั้น