เทียบชัดๆ "วัคซีนโควิด" ฉีดกับไม่ฉีด ต่างกันอย่างไร

ข้อมูลของทีมงาน ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ ระบุว่าหากไม่ได้รับวัคซีนเสี่ยงติดเชื้อมากกว่าได้รับวัคซีนครบโดส พร้อมแนะนำกิจกรรมไหนบ้างที่มีความเสี่ยง

วันที่ 9 พ.ค.64 ประเทศไทยกำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ในระลอกที่ 3 ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด “วัคซีนโควิด” จึงถือเป็นทางรอดเดียวที่จะทำให้สามารถฝ่าวิกฤตินี้ไปได้

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปรับแผนวัคซีนจากเดิมที่ปัจจุบันตั้งเป้าสั่งซื้อวัคซีนที่ 100 ล้านโดส เพิ่มอีกให้เป็น 150 ล้านโดส หรือมากกว่านั้นให้ได้ เพื่อให้เพียงพอสำหรับคนไทยทุกคน

ขณะที่อีก 1 เดือนข้างหน้า ก็จะเข้าสู่แผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ระยะที่ 2 จะมีวัคซีนล็อตใหญ่ของแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) และเริ่มให้บริการฉีดตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564

ท่ามกลางความข้อสงสัยและข้อถกเถียงกันมากในสังคม ว่า “ฉีด” กับ “ไม่ฉีด” วัคซีนโควิด19 จะเกิดอะไรขึ้นและถ้าฉีดแล้ววัคซีนของบริษัทไหนดีกว่ากัน

จากข้อมูลของทีมงาน ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ ประธานหลักสูตร สาขาวิชาระบาดวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ม.อ. และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าหากไม่ได้รับวัคซีนเสี่ยงติดเชื้อมากกว่าได้รับวัคซีนครบโดส พร้อมแนะนำกิจกรรมไหนบ้างที่มีความเสี่ยงซึ่งเป็นไปแนวปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักวิชาระบาดวิทยา ที่สำคัญสามารถใช้เป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายปิดสถานที่ต่างๆ (ล็อคดาวน์) หรือการกำหนดกลุ่มเป้าหมายฉีดวัคซีนได้ด้วย

กิจกรรมกลางแจ้งสำหรับผู้ไม่ได้รับวัคซีน-ได้รับวัคซีนครบ

ผู้ไม่ได้รับวัคซีน
ปลอดภัยมาก ดังนี้
•   เดิน วิ่งหรือปั่นจักรยานกลางแจ้งกับคนในครอบครัว
•   ร่วมกิจกรรมกลางแจ้งกลุ่มย่อยกับเพื่อนและคนในครอบครัวที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว
•   กิจกรรมกลางแจ้งกลุ่มย่อย ต้องสวมหน้ากากอนามัย
ปลอดภัยน้อย ดังนี้
•   กินอาหารในร้านกลางแจ้งร่วมกับเพื่อนต่างครัวเรือน จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยด้วยทุกครั้ง
ปลอดภัยน้อยที่สุด ดังนี้
•   ร่วมกิจกรรมกลางแจ้งกับคนจำนวนมาก เช่น การแสดงพาเหรด แข่งกีฬา

ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ
• ปลอดภัยมากไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย ยกเว้นร่วมกิจกรรมกลางแจ้งกับคนจำนวนมาก เช่น การแสดงพาเหรด แข่งกีฬา

กิจกรรมในร่มไม่ได้รับวัคซีน-รับวัคซีนครบ

ผู้ได้รับวัคซีน

มีความเสี่ยงน้อย และต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ดังนี้
•   ใช้บริการร้านตัดผม เสริมสวย
•   เดินห้างฯ หรือพิพิธภัณฑ์ที่มีคนจำนวนจำกัด
•   เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มย่อยในร่ม
มีความเสี่ยงมากที่สุด สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ดังนี้
•   ชมภาพยนต์ในโรง
•   ร่วมพิธีทางศาสนากับคนจำนวนมาก
•   ร้องเพลง ประสานเสียงในที่ร่วม
•   กินอาหารในร้านอาหาร หรือในผับบาร์
•   เข้ายิม

ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ

มีปลอดภัยมาก แต่ยังต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

เทียบชัดๆ "วัคซีนโควิด" ฉีดกับไม่ฉีด ต่างกันอย่างไร