มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบแก้ไขค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายส่งต่อผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-แพ้วัคซีน ในกรณีฉุกเฉิน เริ่มต้นทางรถยนต์ ไม่เกิน 500 บาท และสูงสุด เฮลิคอปเตอร์ 1.6 แสนบาท
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 27 เม.ย. 64 เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 (ฉบับที่ 3)
โดยมีสาระสำคัญคือ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติม ให้ยกเลิกนิยามเดิมของคำว่า “ค่าใช้จ่าย” และให้ใช้ข้อความ “ค่าใช้จ่ายหมายความว่า ค่าใช้จ่ายจากการตรวจทางห้องปฏิบัติการ การรักษาพยาบาล หรือการส่งต่อผู้ป่วย และให้หมายความรวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดจากอาการแพ้วัคซีน หรืออาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการฉีดวัคซีน ที่ปรากฏตามบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื่อนไขนี้” แทน
นอกจากนี้ยังได้ให้ยกเลิกนิยาม “ผู้ป่วย”เดิม และให้ใช้ข้อความ “ผู้ป่วย” หมายความว่า ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 และให้หมายความรวมถึง บุคคลกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 โดยการฉีดวัคซีนจากสถานพยาบาลที่ภาครัฐกำหนด และเกิดอาการแพ้วัคซีนหรืออาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการฉีดวัคซีน”แทน ซึ่งการแก้ไขเพิ่มเติมครั้งนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป เว้นแต่ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากอาการแพ้วัคซีนหรืออาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการฉีดวัคซีนให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ยังได้เพิ่มค่าพาหนะส่งต่อผู้ป่วยในอัตราค่าใช้จ่ายตามคู่มือแนวทางปฏิบัติในการขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของสำนักงาน และค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล รวมค่าทำความสะอาดฆ่าเชื้อพาหนะ ส่งต่อผู้ป่วยในบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้าย ในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 เช่น