ธอส.แจงผลตรวจ 66 ราย "ไม่พบเชื้อโควิด-19"

10 เม.ย. 2564 | 10:07 น.

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รายงานความคืบหน้าผลตรวจ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร พนักงานธนาคาร และสื่อมวลชน รวม 66 ราย ไม่พบเชื้อโควิด-19 พร้อมตรวจซ้ำรอบที่ 2 เมื่อครบระยะเวลาการกักตัว 14 วัน

จากกรณีที่ นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พร้อมด้วยผู้บริหารพนักงานธนาคาร และสื่อมวลชน รวม 66 คน ได้เข้าชมการแสดงดนตรีของ นายอภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข หรือ“แสตมป์” เมื่อวันเสาร์ที่ 3 เมษายน 2564 ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่เกาะช้าง จ.ตราด ก่อนที่ “แสตมป์” จะประกาศว่า มีผู้ติดเชื่อโควิด-19 เข้าชมการแสดงดนตรีของตนเองที่กรุงเทพฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 2 เมษายน2564  จึงเดินทางไปตรวจและพบเชื้อโควิด-19 เมื่อช่วงค่ำของวันอังคารที่ 6 เมษายน 2564 โดยมีรายละเอียดตามที่ธนาคารได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ นั้น 

ธอส. ขอรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ภายหลังจากได้รับแจ้งจาก “แสตมป์” ว่าตรวจพบเชื้อโควิด-19 กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร พนักงานธนาคาร และสื่อมวลชนที่เข้าร่วมรับชมการแสดงดนตรีดังกล่าวได้ทยอยเดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาล ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันอังคารที่ 6 เมษายน 2564 ล่าสุด ณ วันเสาร์ที่ 10 เมษายน 2564 เวลา 15.30 น. ได้รับทราบผลการตรวจครบทุกคนแล้ว ซึ่งปรากฏว่า “ผลการตรวจเป็นลบ หรือ ตรวจไม่พบเชื้อ โควิด-19” 

อย่างไรก็ตาม กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร พนักงานธนาคาร และสื่อมวลชนทุกคนที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวจะยังคงกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม สังเกต เฝ้าระวัง ติดตามอาการของตนเองเพิ่มเติมตามหลักปฏิบัติด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หลังจากนั้นจะตรวจหาเชื้อซ้ำรอบที่ 2 เมื่อครบระยะเวลาการกักตัว 14 วัน เพื่อยืนยันผลให้เกิดความแน่ใจว่าไม่มีเชื้อในร่างกาย  

ธอส. ขอเรียนว่า แม้บุคลากรของธนาคาร สื่อมวลชน รวมถึงพนักงานของโรงแรมในพื้นที่เกาะช้างจะตรวจไม่พบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากกรณีดังกล่าว ธนาคารต้องขออภัยอย่างยิ่งต่อผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ธนาคารได้เพิ่มความเข้มงวดในการดำเนินการตามมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยพิจารณาเลื่อน ยกเลิก หรือเปลี่ยนรูปการแบบกิจกรรมต่าง ๆ ภายในธนาคาร พร้อมกับงดกิจกรรมหรือการเดินทางที่มีการรวมกลุ่มของคนเป็นจำนวนมาก และกำชับให้บุคลากรของธนาคารทั้งหมดปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัดต่อไป