นายกฯ ลั่น ไม่ปิดสถานบันเทิงทั้งประเทศ สอน สนุกสนานขอให้ยับยั้งชั่งใจด้วย

07 เม.ย. 2564 | 08:44 น.

นายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่ปิดสถานบันเทิงทั้งประเทศ รับห่วงสถานการณ์โควิด-19 ไม่สบายใจหลายเรื่อง สอน จะสนุกสนานให้ยับยั้งชั่งใจด้วย 

นายกรัฐมนตรี ย้ำมาตรการใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง ไม่เข้าไปอยู่สถานที่ที่มีความพื้นที่เสี่ยง สถานที่ท่องเที่ยว สถานบันเทิง พร้อมกับย้ำว่า รัฐบาลจำเป็นจะต้องปิดสถานบริการบางแห่ง บางพื้นที่ และไม่อยากสั่งปิดทั่วประเทศ

โดยประโยคนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 7 เม.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อถูกถามถึงกรณีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ผลตรวจติดเชื้อโควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็รักษาพยาบาลกันไป ก็เหมือนประชาชนทุกคน 

เมื่อถามว่ารู้สึกเครียดกับเหตุการณ์เกิดขึ้นหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า “ไม่เครียด “เมื่อถามถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน นายกฯ ได้ยกมือชูกำปั้นขึ้น พร้อมกล่าวว่า “เชื่อมั่น”ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่นายกฯเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ยังได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ขอให้ระมัดระวังตัวเองกันด้วย

นายกฯ ลั่น ไม่ปิดสถานบันเทิงทั้งประเทศ สอน สนุกสนานขอให้ยับยั้งชั่งใจด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมครม.อีกครั้ง แม้ประชุมลักษณะวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แต่ได้พูดคุยหารือเช่นครม.ปกติ ซึ่งมีรัฐมนตรีหลายท่านที่อยู่ในมาตรการกักตัวแต่ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะมีการเชื่อมต่อระบบออนไลน์อยู่แล้ว 

ในส่วนของคำถามประชาชนวันนี้ให้ความสำคัญสถานการ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ขณะนี้ ซึ่งรัฐบาลห่วงใย และจำเป็นต้องหามาตรการเหมาะสม ที่เป็นมาตรการในการดำเนินการ เราต้องบริหารในหลายเรื่องด้วยกัน ทั้งโควิด เศรษฐกิจ การบริหารความรู้สึกประชาชน ซึ่งตนไม่สบายใจหลายเรื่องขณะนี้ด้วยกัน แต่อย่าท้อแท้ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และสร้างการมีส่วนร่วมประชาชน ไม่ว่าการแพร่ระบาดจะระดับใดก็ตาม หรือโควิด-19จะกลายพันธุ์หรือไม่กลายพันธุ์ เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องมาตรการด้านสาธารณสุข ซึ่งคณะแพทย์ได้หารือกันขณะนี้

นายกฯกล่าวว่า อย่างไรก็ตามเราต้องเร่งรัดฉีดวัคซีนให้มากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับวัคซีนที่กำลังทยอยเข้ามาในประเทศเวลานี้ หลายเรื่องเป็นปัญหาระดับโลกและระดับประเทศ แม้กระทั่งประเทศผู้ผลิตวัคซีนก็มีปัญหาผลิตวัคซีน เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงขึ้นในหลายพื้นที่  ซึ่งจะทำให้มีปัญหาการจัดหาวัคซีนเรกก็ต้องเตรียมแก้ปัญาหาเหล่านี้ ขอความร่วมมือจากทุกคนให้ความร่วมมือกับภาครัฐ และทุกคนต้องมีมาตรการของตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง ไม่เข้าไปอยู่สถานที่ที่มีความพื้นที่เสี่ยง สถานที่ท้องเที่ยว สถานบันเทิง ซึ่งรัฐบาลจำเป็นจะต้องปิดสถานบริการบางแห่ง บางพื้นที่ ทั้งนี้ หากมีการตรวจสอบพบว่าจัดทำมาตรการควบคุมโควิดไม่พร้อมก็จะสั่งปืดโดยทันที

"ผมไม่อยากสั่งปิดทั่วประเทศ เพราะผมเข้าใจ แต่ทุกคนจะต้องเรียนรู้ดูแลตัวเอง และครอบครัวอย่างไร ความสนุกสนาน ความบันเทิง ขอทุกคนระงับยับยั้งและชั่งใจด้วย เพราะผลมันกระทบต่อครอบครัวตัวเองและสังคม ทั้งนี้ ไม่ว่าเป็นใครก็ตามผมก็ห่วงใยทั้งสิ้น”นายกฯกล่าว

นายกฯ ลั่น ไม่ปิดสถานบันเทิงทั้งประเทศ สอน สนุกสนานขอให้ยับยั้งชั่งใจด้วย

นายกฯกล่าว่า ตนได้สั่งการกระทรวงสาธารณสุขได้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด การรักษา ยืนยันซึ่งทุกอย่างในขณะนี้เรายังรับได้อยู่ ขณะเดียวกันได้สั่งการให้กทม.ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย จัดเตรียมพื้นที่สำหรับทำโรงพยาบาลสนามให้พร้อม ในกรณีสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดจำนวนมาก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากไม่เพียงพอให้กระทรวงกลาโหมจัดหาพื้นที่เพิ่มเติม วันนี้ก็มีหลายจังหวัด แต่ก็มีความแตกต่างกันในเรื่องของธุรกิจ เรื่องประชาชน ซึ่งตนได้มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ได้พิจารณาเพิ่มเติมตามความจำเป็น ข้อสำคัญเราต้องการ์ดไม่ตก

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มีหลายจังหวัดซึ่งมีความแตกต่างกันในเรื่องธุรกิจ เรื่องของประชาชน ซึ่งตนได้มอบอำนาจนอกเหนือจากมาตรฐานกลางที่ศบค.ออกไปแล้วคือให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สสจ. สามารถพิจารณาเพิ่มเติมได้ตามความจำป็น สิ่งสำคัญเราต้องการ์ดไม่ตก ใส่หน้ากากอนามัยให้ดีและการจัดกิจกรรมใดๆในช่วงสงกรานต์อาจจะต้องมีความเข้มงวดมากขึ้น และอะไรที่ไม่จำเป็นก็อย่าจัดเลย โดยเฉพาะการรดน้ำดำหัวที่คนเยอะๆ  แม้กระทั่งการทำบุญอะไรต่างๆก็ตามก็คงต้องเว้นระยะห่างให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์หรือคนที่ไปทำบุญก็ต้องใส่หน้ากากทั้งหมด 

วันนี้สิ่งที่ตนอยากแน่นำก็คือ หากยังรดน้ำใครไม่ได้เกรงการแพร่ระบาดก็รดน้ำพระพุทธรูปที่บ้านได้ก็ดี วันนี้รัฐบาลก็ได้ยกเลิกงานที่จะจัดสงฆ์น้ำพระที่ทำเนียบไปแล้ว เพราะเป็นห่วง ไม่อยากให้คนมารวมกันจำนวนมากสถานที่มีความเสี่ยง สถานที่ท่องเที่ยว ทุกคนต้องระมีดระวังให้มากที่สุด เพราะคนที่จะได้รับผลกระทบจากท่านมากที่สุดก็คือคนในครอบครัวของท่านเองและสังคม ส่วนเชื้อที่แพร่จะเป็นสายพันธุ์เก่า หรือสายพันธุ์ใหม่ หรือเชื้อกลายพันธุ์ ตรงนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาอยู่แล้ว ขอให้เป็นเรื่องของทางการแพทย์ที่จะพิจารณา อย่าเพิ่งตื่นตระหนกตรงนี้