สมุทรสาครปรับใช้"สนามกีฬาจังหวัด" เป็นศูนย์พักฟื้นกักตัว

26 ธ.ค. 2563 | 11:37 น.

ผู้ว่าสมุทรสาครออกคำสั่งปรับใช้ สนามกีฬาจังหวัด ตั้ง'ศูนย์ห่วงใยคนสาคร' เป็นสถานที่พักฟื้นกักตัว

 

วันที่ 26 ธันวาคม 2563 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ลงนามคำสั่งจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 3557/2563 เรื่อง จัดตั้งสถานที่ป้องกันและควบคุมโรคตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) (ฉบับที่ 25)

 

โดยคำสั่ง ระบุว่า ด้วยสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดสมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับจังหวัดสมุทรสาครมีจำนวนแรงงานต่างด้าวที่มาประกอบอาชีพเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและรักษาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วและจำกัดวงการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว

 

อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ปี 2558 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ปี 2548 (ฉบับที่ 1) และผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ตามมติที่ประชุมฯ ครั้งที่ 58/2563 วันที่ 25 ธ.ค. 2563 จึงมีคำสั่งจังหวัดสมุทรสาคร ให้จัดตั้งสถานที่ป้องกันและควบคุมโรคตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ณ สนามกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยให้ใช้สถานที่นี้เป็น "ศูนย์ห่วงใยคนสาคร"


ทั้งนี้ ห้ามบุคคลใดที่ไม่ได้รับอนุญาต เข้าไปหรือออกจากสถานที่ดังกล่าว เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรค กรณีผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ มีโทษตามนัยมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ ปี 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ปี 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

อนึ่ง ด้วยเหตุที่เป็นกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของประชาชนและประโยชน์สาธารณะ หากปล่อยให้เนิ่นนานช้าไป จะก่อผลเสียหายร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามนัยมาตรา 30 วรรค 2 (1) แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ปี 2539

 

สำหรับ "ศูนย์ห่วงใยคนสาคร" จะเป็นสถานที่ดูแลผู้ติดเชื้อที่มีอาการดีขึ้นแล้ว อาการไม่หนัก แต่เพื่อป้องกันความเสี่ยงไม่ให้ปะปนกับคนภายนอก มีประโยชน์อย่างมากในการคัดกรองโรคเบื้องต้นได้ ลดความเสี่ยงสัมผัสเชื้อโควิด-19 ในชุมชน ทำให้เชื้อไม่แพร่กระจายไปในวงกว้าง และควบคุมโรงได้อย่างเป็นระบบ โดยจะมีการกางเต็นท์และวางเตียงชั่วคราว มีอาคารอำนวยการ ห้องสุขา ที่อาบน้ำ พร้อมระบบจัดการของเสีย เช่น ถังกักเก็บน้ำเสีย (Septic Tank) ที่พักรวมมูลฝอยทั่วไป ที่พักรวมมูลฝอยติดเชื้อ

 

ก่อนหน้านี้มีการเตรียมใช้สวนน้ำพันท้ายนรสิงห์ ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร เป็นโรงพยาบาลสนาม แต่ถูกชาวบ้านออกมาประท้วงคัดค้านอย่างหนัก ขณะที่สนามกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร อยู่บริเวณด้านหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครนั่นเอง

 

สมุทรสาครปรับใช้"สนามกีฬาจังหวัด" เป็นศูนย์พักฟื้นกักตัว