START UP

20 ก.พ. 2559 | 00:00 น.
ไปอเมริกาฉลองปีใหม่เที่ยวนี้

ที่เมือง SAN FRANCISCO ร้านอาหารทะเลดีๆ แถว FISHERMAN’ S WHARF ไม่มีปูขาย

สอบถามได้ความว่า ด้วยความปรวนแปรของภูมิอากาศ ทำให้ปูบริโภค "สาหร่าย" มากผิดปกติ และ"สาหร่าย" เป้นตัวดูดพิษจากทะเล "สาหร่าย" มีพิษ "ปู" จะมีพิษด้วย จะส่งผลต่อผู้บริโภค ทางการจึงห้ามจำหน่าย "ปู" ช่วงนี้

เห็นการทำงานของเขาแล้วชื่นใจครับ

มาอเมริกาทีไร จะมีเพื่อนฝากซื้อยาแก้ปวดชื่อดัง ตอนแรกผมก็ตอกกลับเพื่อนไปว่า "ดัดจริต" เขาโอดว่ายาผลิตในไทยมีแต่ "แป้ง" (ฮา)

พอได้คุยกับหมออเมริกัน จึงได้เข้าใจและเห็นใจเพื่อน หมอบอกว่าโรงงานผลิตยาของสหรัฐฯ จะต้องโดนสุ่มตรวจผลิตภัณฑ์ยา ทุก 3 เดือน เพื่อไม่ให้บริษัทผลิตยายักษ์ใหญ่เอาเปรียบหรือโกงผู้บริโภค

"ชื่นใจ" อีกครับ

คล้ายๆ LOTION บำรุงผิวพรรณ เขาว่าของในไทย "น้ำ แยะไม่ว่าจะเป็น BRAND ยุโรป หรือชาติใด แต่ผลิตในไทย "เนื้อครีม" ไม่ค่อยมี

คิดถึง "บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" ที่ผลิตในอินเดียครับ

"แป้ง" จะไม่อร่อย เนื่องจากต้องการให้ได้ "ราคา" ขายที่ผู้บริโภคภารตะยอมรับได้

ผู้ผลิตก็ต้องผสมแป้งถูกๆ ชนิดอื่น เข้าไปใน "แป้งสาลี" แป้งดีที่เป็น "หลัก" ของบะหมี่

ในตำรา MANAGEMENT สิ่งสำคัญที่ผู้บริหารต้องตระหนัก คือ ปัจจัย "ENVIRONMENT" แต่เอาเข้าจริง มักจะละเลย ที่แย่กว่านั้นคือ ไม่ใส่ใจว่าการกระทำของตนจะเกิดผลต่อส่วนรวมอย่างไร

หากตนและบริษัทกอบโกยอย่างเดียว โดยไม่คิดถึงสภาพแวดล้อม สภาพสังคม ไม่ค่อยได้คิดกันถึงความยั่งยืน

ยิ่งในอเมริกา ที่ "ผู้บริหาร" จะได้ประโยชน์ตอบแทนสูง จาก "ราคาหุ้น" ของบริษัทที่ตนรับผิดชอบ วัด PERFORMANCE จาก "ราคาหุ้น" เป็นหลัก ถ้าตกก็ต้องไป

ปีนี้สภาพภูมิอากาศ ทำให้การค้าขายมีปัญหาพอสมควร

สภาพอากาศเลวร้าย ทางฝั่ง EAST ทำให้ผู้คนสัญจรลำบาก FLIGHT CANCELED เป็นพันๆ ต่อวัน ผู้คนหยุดอยู่กับที่

ขณะที่ทางฝั่ง WEST อากาศที่ไม่หนาว ทำให้เสื้อผ้าเครื่องหนาวขายไม่ดี

และที่น่ากลัวมากๆ คือ จะมีการแพร่พันธุ์ของ "ยุงลาย" มากผิดปกติในโลก เราจึงได้เห็น "โรคไข้เลือดออก" ที่เคยเป็นเฉพาะเด็ก แต่ตอนนี้ผู้ใหญ่ก็เป็นได้ และอันตรายถึงตาย ถ้ารอดก็ยังต้องพักฟื้นเป็นเดือนๆ

โรคใหม่ๆเกิดขึ้นจาก "ยุง" และ" พาหะ" อื่นๆ

ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป ส่วนหนึ่งเกิดจาก "มนุษย์" ที่ทำลายแน่ๆ ตอนนี้มีข้อกังวลว่า "ฝ้าย" (COTTON) วัสดุหลักที่ผลิตเสื้อผ้า เริ่มจะขาดแคลน บริษัทยักษ์ใหญ่ที่หากินทางเสื้อผ้า ต้องให้ทุนพัฒนาหาวิธี RECYCLE เสื้อผ้าที่(ที่ใช้แล้ว) กลับมาเป็น "ฝ้าย" ใหม่ ตัดเย็บใหม่เพื่อสนองกิเลสของผู้บริโภคที่รักสวยรักงาม

ค่อนข้างตลกที่เจ้าของกิจการเสื้อผ้า (ZARA) เป็นคนรวยอันดับต้นๆของโลก รวยกว่าคนผลิตอาหาร (ที่น่าจะจำเป็นกับชีวิตมากกว่า) รวยกว่าคนคิดค้นประดิษฐ์นวัตกรรมให้ผู้คนทั้งโลกได้สุขสบาย อย่าง BILL GATES STEVE JOBS ETC.

ตอนนี้ธุรกิจไทยคงไม่มีคำใดฮิตเท่า "START UP" (ฮา)

ก็ต้องชมอาจารย์การตลาดของผม ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ผู้สอนหนังสือสนุก และมีลูกศิษย์+ผู้ช่วยมือขวาช่วยคิดอย่าง ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ (รมช. พาณิชย์ฯ) อยู่ในทีมเศรษฐกิจ

ทีมนี้คงจะถ่ายทอดสติปัญญาจากหนังสือ "กูรู" การตลาดให้ชาวบ้านร้านตลาดมีความหวัง และข้าราชการกระทรวงเพิ่มพูนสติปัญญา ความสามารถในการทำงานได้บ้าง

ธุรกิจ START UP ที่อเมริกาเป็น "อันดับหนึ่ง" เป็น "ต้นแบบ" ของ START UP ใช้ความคิดและเทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างธุรกิจ ที่นำมายกย่องกันมาก ก็เช่น UBER (แท็กซี่รถบ้านที่ผมนำมาเล่าไปก่อนหน้านี้)

ยกย่องกันถึงขนาดลามปามไปยังผู้ประกอบการที่หลังขดหลังแข็ง ทำงานมาด้วยความเหนื่อยยาก อย่าง เจ้าของโรงงาน เจ้าของรถเช่า ฯลฯ

"ดูสิ คนคิด UBER ไม่ต้องมีรถสักคัน แต่ก็สามารถนำรถเข้ามาอยู่ในระบบทำมาหากินได้เป็นแสนๆคัน"

ว่าที่จริงก่อน UBER ก็มี NIKE STARBUCKS ETC. ที่ประสบความสำเร็จโดยใช้ "ความคิดและเทคโนโลยี" ซึ่งเรื่องพวกนี้เด็กๆหรือหนุ่มสาวอเมริกันถนัดนัก

สอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ได้อย่าง HARVARD STANFORD ETC. (สอบเข้าหมายถึงได้รับการพิจารณาให้เข้าศึกษาโดยดูคะแนน SAT ดู ESSAY และประวัติส่วนตัว ฯลฯ)

พวกนี้มักจะไม่เข้าเรียนเลย แต่ขอท่องโลกก่อน 1 ปี เพื่อว่าเวลาเรียนจะได้รู้ว่าต้องเน้นไปทางใด

ว่ากันว่า ECOSYSTEM "สภาพแวดล้อม" ที่เอื้ออำนวยต่อการเกิดขึ้นของธุรกิจนั้นก็สำคัญมาก

เมืองไทยที่กำลังฮิตกับคำว่า "STRAT UP" ได้มีการเตรียมพร้อมขนาดไหน เตรียมปัจจัยเกื้อหนุนภายในขนาดไหน

ที่ผ่านมาถนัดนัดกับการพา "นักรบเศรษฐกิจ" ออกไปบุกตลาดต่างประเทศ

ต้องขอสารภาพเรื่องส่วนตัวให้เป็นบทเรียน (ฮา)

ปี 1975-1978 ที่ผมได้ทุน FULBRIGHT ไปศึกษา ณ เมือง CHICAGO ช่วงนั้นโลกกำลังเจอ ENERGY CRISIS อาจารย์ให้ผมทำ PRESENTATION ใน CLASS : DESIGN SEMINAR 1 ชิ้น

ผมมีโอกาสได้อ่าน THE WHOLEEARTH CATALOG ซึ่งเป็นเล่มเดียวกับที่ STEVE JOBS อ่าน

เพียงแต่จบแล้ว ผมมาเป็นครูบ้านนอกจนๆ อยู่แถวโคกอิสาน ขณะที่ STEVE JOBS อยู่ SILICON VALLEY (ฮา)

STEVE JOBS ร่ำรวยจาก MAC iPHONE iPAD ETC. ขณะที่ผมยังอดมื้อกินมื้อ ใช้กระดานชนวน (ฮา)

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,132 วันที่ 18 - 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559