ด่วนผู้ว่าฯภูเก็ตออกมาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าภูเก็ต มีผล1ก.ค.นี้

25 มิ.ย. 2564 | 06:35 น.

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตออกคำสั่งกำหนด8มาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต รองรับการเปิดเมือง “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” Phuket Sandbox มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคมนี้

วันนี้ (25 มิถุนายน2564) นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ออกประกาศคำสั่งจังหวัดภูเก็ตล่าสุด เรื่อง กำหนดมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยระบุว่าเนื่องด้วยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 รับทราบและเห็นชอบหลักการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต

โดยจะรับนักท่องเที่ยวจากประเทศที่เป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำหรือความเสี่ยงปานกลาง ซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข และองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้การรับรองครบโดสตามจำนวนที่กำหนด และได้ผ่านขั้นตอนการตรวจหาเชื้อโควิด - 19 ภายใน 72ชั่วโมงก่อนการเดินทาง ให้สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตได้ โดยไม่มีการกักตัว เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564เป็นต้นไป

ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวควบคู่กับมาตรการด้านสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตจำเป็นต้องกำหนดมาตรการในการควบคุม ติดตาม เฝ้าระวัง นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศและบุคคลทั่วไปที่จะเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต เพื่อป้องกันมิให้มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดขึ้นในจังหวัดภูเก็ต จึงออกมาตรการดังต่อไปนี้

ข้อ 1 มาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ทางท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตของคนต่างประเทศและคนไทย ผู้เดินทางต้องมีคุณสมบัติและปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

-ต้องเป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำหรือความเสี่ยงปานกลาง ตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุข และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกำหนด ทั้งนี้ กรณีเดินทางจากประเทศอื่นต้องพำนักอยู่ในประเทศที่กำหนดข้างต้นอย่างน้อย ๒๑ วัน ก่อนการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต

-ต้องมีหนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (Certificate of Entry - COE)

-ต้องได้รับวัคซีนตามกำหนดของประเทศไทยครบกำหนด ๒ เข็ม (ตามประเภทวัคซีน)อย่างน้อย 14 วัน ก่อนการเดินทาง และมีเอกสารรับรองการได้รับวัคซีน (Vaccine Certificate) กรณีเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี สามารถเดินทางเข้ามาพร้อมกับผู้ปกครองได้

- มีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าผู้เดินทางไม่มีเชื้อโรคโควิด - ๑๙ (Medical certificate with a laboratory result indicating that COVID - 19 is not detected) โดยวิธีการ RT - PCR โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง

- กรณีเคยติดเชื้อต้องได้รับวัคซีนตามกำหนด 2 เข็ม ตามประเภทวัคซีน) อย่างน้อย 14 วัน

- มีกรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่ใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาลหรือหลักประกันอื่นใด ซึ่งรวมถึงกรณีโรคโควิด - 19 ตลอดระยะเวลาที่ผู้เดินทางอยู่ในราชอาณาจักร ในวงเงินไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ

-ให้มีการตรวจหาเชื้อโรคโควิด - 19 โดยวิธี RT PCR จำนวน 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 ตั้งแต่ วันที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร (day 0) ณ ท่าอากาศยานภูเก็ตโดยพักรอในห้องพัก 1 คืน เพื่อรอรับแจ้งผลการตรวจผ่านทางผู้จัดการ (COVID-19 Manager) ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 6-7  ณ โรงแรมที่พักอาศัยหรือห้องปฏิบัติการ (Lab นอก) โดยโรงพยาบาลคู่สัญญา และครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 12-13 ณ โรงแรมที่พักอาศัยหรือห้องปฏิบัติการ (Lab นอก) โดยโรงพยาบาลคู่สัญญา

- ต้องเข้าพำนัก ณ สถานประกอบการโรงแรมที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ (SHA Plus)ในจังหวัดภูเก็ต เป็นระยะเวลา ๑๔ คืน จึงสามารถเดินทางออกนอกจังหวัดภูเก็ตเพื่อท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นได้กรณีทำนักไม่ถึง 14 คืน ต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเท่านั้น

- ผู้เดินทางสามารถเดินทางในจังหวัดภูเก็ตและดำเนินกิจกรรมทางการท่องเที่ยวและใช้บริการสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ (SHA Plus) ภายใต้มาตรการ D-M-H-T-T-A

-ติดตั้งแอปพลิเคชั่น Thailand Plus และ Tracing Application : Morchana และยินยอมให้ระบบติดตามพิกัดตามภูมิศาสตร์ (GPS) ผ่านแอปพลิเคชัน ตลอดระยะเวลาที่พำนักในประเทศไทย

ข้อ 2 ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และประสงค์จะเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ต เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดอื่น หรือเดินทางออกนอกราชอาณาจักรทางอากาศ (ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต)นักท่องเที่ยวที่พำนักในจังหวัดภูเก็ตครบกำหนด 14 คืน และประสงค์จะเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ต ให้แสดงเอกสารหลักฐาน ต่อเจ้าหน้าที่ ณ ด่านตรวจช่องทางขาออก ณ อาคารผู้โดยสารภายในประเทศหรืออาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ดังต่อไปนี้

-หนังสือเดินทางและวีซ่าที่ตรวจลงตราโดย ตม.ท่าอากาศยานภูเก็ตขาเข้า (ยกเว้นผู้มีสัญชาติไทย)

-หลักฐานยืนยันการตรวจหาเชื้อโควิด - 19 แสดงว่าตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ตลอดระยะเวลา14 คืน ที่พำนักอยู่ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งออกโดยหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข

- หลักฐานการเข้าพักในโรงแรมหรือที่พักที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ (SHA Plus)

ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

ข้อ 3 ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและประสงค์จะเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตเพื่อเดินทางไปยังจังหวัดอื่น ทางบกและทางเรือ ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้

ทางบก (ด่านตรวจท่าฉัตรไชย) ผู้ที่ประสงค์เดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ต้องมีเอกสารยืนยันการผ่านวิธีการที่ทางราชการกำหนด โดยมีการลงตราในใบเอกสารแนบในหนังสือเดินทางแสดงถึงระยะเวลาที่ต้องพำนักในจังหวัดภูเก็ต หลักฐานยืนยันการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่แสดงว่าตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ตลอดระยะเวลา 14 วัน ที่พำนักอยู่ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งออกโดยหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข และหลักฐานยืนยันการพำนักในสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ (SHA Plus) ในจังหวัดภูเก็ตมาแล้วเป็นระยะเวลา 14 คืน

ทางเรือ (ท่าเทียบเรือ)

1.ให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและพำนักอยู่ในจังหวัดภูเก็ตตามกำหนด 14 คืน ที่ประสงค์จะเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตทางเรือ สามารถเดินทางโดยเรือโดยสารออกจากท่าเทียบเรือที่กำหนด ดังนี้

-ท่าเทียบเรืออ่าวปอ ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

- ท่าเทียบเรือรัษฎา ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

- ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

ในกรณีที่จะเดินทางโดยเรือยอร์ชให้เดินทางออกจากท่าเรือที่กำหนด ดังนี้

-ท่าเทียบเรือยอร์ซ เฮเว่น มารีน่า ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

- ท่าเทียบเรืออ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

-ท่าเทียบเรือภูเก็ต โบ๊ทลากูน ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

- ท่าเทียบเรือรอยัล ภูเก็ต มารีน่า ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

- ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

โดยต้องแจ้งเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต หรือศูนย์ปฏิบัติการติดตามและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต (ศปก.Phuket Sandbox) ก่อนออกเดินทาง

ผู้เดินทางต้องแสดงหลักฐาน ดังต่อไปนี้

-หนังสือเดินทางและวีช่าที่ ตรวจลงตราโดย ตม.ท่อากาศยานภูเก็ตขาเข้า

- หลักฐานยืนยันการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แสดงว่าตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ตลอดระยะเวลา 14 คืน ที่พำนักอยู่ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งออกโดยหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข

-หลักฐานการเข้าพักในโรงแรมหรือที่พักที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ (SHA Plus)

กรณีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศที่ประสงค์จะเดินทางท่องเที่ยวในน่านน้ำจังหวัดภูเก็ตจะต้องเดินทางออกจากท่าเรือที่กำหนด คือ ท่าเทียบเรืออ่าวปอ, ท่าเทียบเรือรัษฎา, ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง, ท่าเทียบเรือยอร์ซ เฮเว่น มารีน่า, ท่าเทียบเรืออ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า, ท่เทียบเรือภูเก็ต โบ๊ทลากูน, ท่าเทียบเรือรอยัส ภูเก็ต มารีน่า

ผู้เดินทางจะต้องปฏิบัติ ดังนี้

- ลงทะเบียนระบบติดตามตัวโดยการรายงานตัวผ่านแอปพลิเคชัน ตามที่ทางราชการกำหนด

- เรือโดยสารจะต้องติดตั้งระบบแสดงตนอัตโนมัติ (AIS ไม่ต่ำกว่า Type B) และติดตั้งวิทยุสื่อสาร VHF พร้อมเปิดใช้งานตลอดเวลาและให้เป็นไปตามกฎหมายกรมเจ้าท่า

-เจ้าของเรือหรือผู้ควบคุมเรือหรือตัวแทนเจ้าของเรือ ต้องแจ้งเรือเข้า - ออกท่าเรือตามแบบรายงานพร้อมเอกสารให้เจ้าหน้าที่ตามข้อ 2 ตรวจสอบก่อนปล่อยเรือออกจากท่า หรือเมื่อเรือเข้าเทียบท่าเสร็จเรียบร้อย ซึ่งประกอบด้วยเอกสาร ดังต่อไปนี้

-แบบรายงานเรือเข้า - ออกท่าเทียบเรือ

-บัญชีรายชื่อผู้โดยสารและคนประจำเรือ

-บัญชีผู้เอาประกันภัยหรือกรมธรรม์และความถูกต้องตรงกันของผู้โดยสาร

< ให้ผู้ประกอบการท่าเรื่อ นายเรือ ผู้ควบคุมเรือ คนประจำเรือ ลูกเรือ พนักงานในเรือและผู้โดยสาร ถือปฏิบัติตามประกาศกรมเจ้าท่าที่ 8/2564 ลงวันที่ 11 มกราคม 2564 เรื่อง กำหนดให้ผู้ประกอบการเรือ ผู้ประกอบการท่าเรือ เจ้าของเรือ ผู้ควบคุมเรือและผู้โดยสารปฏิบัติ กรณีที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ในข้อที่มีได้กำหนดไว้ในประกาศนี้อย่างเคร่งครัด

กรณีที่ผู้เดินทางต่างประเทศที่ประสงค์จะเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ต ไม่สามารถแสดงหลักฐาน ณ ด่านตรวจทางบก (ท่าฉัตรไชย) ด่านตรวจทางเรือ (ท่าเรือที่กำหนด) จะไม่สามารถเดินทางออกนอกเขต จังหวัดภูเก็ตได้ทุกกรณี ยกเว้นจะเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตเพื่อออกจากราชอาณาจักรไทยทางท่าอากาศยาน

ข้อ 4 การเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตของคนไทยจากต่างจังหวัด หรือคนต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย ทางด่านตรวจท่าฉัตรไชย ช่องทางน้ำ (ท่าเรือ) ทุกท่า ในจังหวัดภูเก็ต และช่องทางภายในประเทศท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ผู้เดินทาง ยกเว้นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ที่เดินทางมากับผู้ปกครอง ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใด และต้องถือปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

-ต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 ครบ 2เข็ม หรือครบโดสตามจำนวนวัคซีนแต่ละชนิด หรือได้รับวัคซีนชนิด AstraZeneca จำนวน 1 เข็ม มาแล้วเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน

 -หรือเป็นผู้ที่หายจากอาการป่วยด้วยโรคโควิด-19  มาแล้วไม่เกิน 90 วัน

-หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด -19  ด้วยวิธีการ RT - PCR หรือวิธีการ Antigen Testไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับการตรวจ

- ต้องดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน "หมอชนะ" บนสมาร์ทโฟน และยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง (Location) ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต

- แสดงเอกสารหลักฐานข้างต้น ต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อก่อนเข้าจังหวัดภูเก็ต

-ให้สังเกตติดตามอาการตนเอง (Self Monitoring) ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค หากพบอาการป่วยหรือสงสัยว่ามีอาการป่วยด้วยโรคโควิด - 19 ให้พบแพทย์โดยด่วน ผู้ติดเชื้อที่จงใจปกปิดข้อมูลการเดินทางหรือแจ้งข้อมูลเท็จต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนและควบคุมโรคเป็นผลให้เชื้อโรคแพร่ออกไป อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558ด้วย

มาตรการการเดินทางเข้าภูเก็ต

ข้อ 5 จังหวัดภูเก็ตจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมการเปิดเมืองเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว Phuket Tourism Sandbox ทำหน้าที่บริหารจัดการ มอบหมายภารกิจ กำกับติตตามการเดินทาง เข้า - ออก จังหวัดภูเก็ต ของนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทย ทั้งที่เดินทางจากต่างประเทศและภายในประเทศ ตั้งแต่เริ่มเข้ามาจนกระทั่งเดินทางออกจากจังหวัด รวมถึงจัดระบบติดตามผลการปฏิบัติงาน ข้อมูลการเข้า-ออก ของนักท่องเที่ยว

การเฝ้าระวังและติดตาม ประเมินสถานการณ์การติดเชื้อ ข้อร้องเรียน หรือข้อคิดเห็นของ ประชาชน ปัญหาอุปสรรคการปฏิบัติและแนวทางแก้ไข เพื่อรายงานให้ ศปก.ศบค. และผู้บริหารระดับสูงทราบอย่างต่อเนื่อง โดยให้จัดระบบการสื่อสารเชื่อมโยงกับสถานที่สำคัญ

ได้แก่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานภูเก็ต,ด่านตรวจคนเข้าเมืองทางบก (ด่านตรวจท่าฉัตรไชย),ด่านตรวจคนเข้าเมืองทางน้ำ,ศูนย์ประสานงานโรงพยาบาลรัฐและเอกชน (สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด),ตำรวจภูธรจังหวัด ตำรวจน้ำ และตำรวจท่องเที่ยว ศูนย์ประสานงานโรงแรม/ที่พัก (SHA Plus Manager) ศูนย์ประสานงานสถานประกอบการ SHA+ (SHA Plus (สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด), ศรชล.จังหวัดภูเก็ต, สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลภาคใต้ และ บจม.โทรคมนาคมแห่งชาติ

ข้อ 6 ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต จัดทำแผนรับมือและแผนการชะลอหรือยกเลิกโครงการกรณีมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 90รายต่อสัปดาห์ มีลักษณะการกระจายโรคในจังหวัดทั้ง 3 อำเภอ และมากกว่า 6 ตำบล และมีการระบาดเกิน 3 คลัสเตอร์ หรือมีการระบาดในวงกว้างที่หาสาเหตุหรือความเชื่อมโยงไม่ได้ มีผู้ติดเชื้อครองเตียงตั้งแต่ร้อยละ 80ของศักยภาพ โดยจะมีมาตรการปรับเปลี่ยน 4 ระดับ ดังนี้

-ปรับลดกิจกรรม

-ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อรองรับสถานการณ์ (Sealed Route)

- มาตรการกักตัวภายในสถานที่พัก Hotel Quarantine

- ทบทวนยุติโครงการ Phuket Sandbox

ข้อ7ขอความร่วมมือผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด- 19 (D -M -H -T -T - A) ได้แก่ D – Distancing = เว้นระยะห่างระหว่างกัน M - Mask Wearing = สวมหน้ากากผ้า / หน้ากากอนามัยเสมอ H -Hand Washing = ล้างมือบ่อย ๆ T- Temperature ตรวจวัดอุณหภูมิ T- Testing ตรวจหาเชื้อโควิด – 19 A – Application ติดตั้งและสแกนแอปพลิเคชันไทยชนะ และหมอชนะ

ข้อ 8 การฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือมาตรการ

กรณีคนต่างด้าวผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร

-การฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 อาจมีโทษตามมาตรา 51 และมาตรา52

-การฝ่าฝืนคำสั่งตามมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรและหลักเกณฑ์การดำเนินการซึ่งทางราชการกำหนด เช่น การเดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ตก่อนระยะเวลา 14 คืน หรือตามที่กำหนดโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการไม่ให้ความร่วมมือเข้ารับการรักษา เป็นต้น อาจเป็นเหตุแห่งการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ต่อในราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา36  และอาจพิจารณาไม่อนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักร ตามคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ 1/2558 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน2558 เรื่อง การไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาในราชอาณาจักร

กรณีบุคคลผู้มีสัญชาติไทย

-การฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 อาจมีโทษตามมาตรา51  และมาตรา 52

กรณีผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว ผู้นำเที่ยว หรือมัคคุเทศก์ รวมถึงเจ้าของพาหนะ ผู้ควบคุมพาหนะ หรือคนประจำพาหนะที่นำคนต่างด้าวโดยสารไปด้วย

- การฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 อาจมีโทษตามมาตรา 51 และมาตรา 52

-การฝ่าฝืนมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรและหลักเกณฑ์การดำเนินการซึ่งทางราชการกำหนด อาจถูกพักใช้ใบอนุญาตตามมาตรา 45 หรืออาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตตามมาตรา 86แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 แล้วแต่กรณี หากเข้าเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด

อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือมาตรา50 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับแห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และอาจได้รับโทษตามมาตรา18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2564เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ด่วนผู้ว่าฯภูเก็ตออกมาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าภูเก็ต มีผล1ก.ค.นี้

ด่วนผู้ว่าฯภูเก็ตออกมาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าภูเก็ต มีผล1ก.ค.นี้

ด่วนผู้ว่าฯภูเก็ตออกมาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าภูเก็ต มีผล1ก.ค.นี้

ด่วนผู้ว่าฯภูเก็ตออกมาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าภูเก็ต มีผล1ก.ค.นี้

ด่วนผู้ว่าฯภูเก็ตออกมาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าภูเก็ต มีผล1ก.ค.นี้

 

ที่มา : สสจ.ภูเก็ต

ข่าวเกี่ยวข้อง: