ถก3จังหวัดใต้ นำร่อง"Sandbox"เปิดประเทศรับต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว

10 มี.ค. 2564 | 21:00 น.

กระทรวงท่องเที่ยวหารือ3จังหวัดท่องเที่ยวอันดามัน ผลักดันโครงการแซนด์บ็อกซ์ Sandbox เปิดประเทศรับต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว โดยจะเร่งดำเนินการให้ได้ก่อนตุลาคมนี้

กระทรวงท่องเที่ยวหารือ3จังหวัดท่องเที่ยวอันดามัน ภูเก็ต พังงา กระบี่ ผลักดันโครงการ แซนด์บ็อกซ์ Sandbox  เปิดประเทศรับต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว โดยจะเร่งดำเนินการให้ได้ก่อนตุลาคมนี้ ทั้งเดินหน้าการกักตัวรูปแบบใหม่Area Quarantine ลดจำนวนวันกักตัวในพื้นที่7จังหวัด

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่าเมื่อวันที่10มีนาคม2564 กระทรวงการท่องเที่ยวฯได้ร่วมหารือกับผู้ว่าราชการ และภาคธุรกิจท่องเที่ยวใน3จังหวัดอันดามัน ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

โดยนอกจากการผ่อนคลายมาตรการกักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมีการลดจำนวนวันกักตัวลงแล้ว

ถก3จังหวัดใต้ นำร่อง"Sandbox"เปิดประเทศรับต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว

ขณะนี้ยังมีการหารือถึงการทำแซนด์บ็อกซ์
 Sandbox  คือจะเป็นการเจรจาระหว่างไทยกับประเทศต่างๆ ในลักษณะเมืองต่อเมือง หรือเกาะต่อเกาะ เพื่อทำ Travel bubble ระหว่างกัน เพื่อดึงนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วและมีความต้องการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในพื้นที่ที่กำหนดร่วมกันแบบไม่ต้องกักตัว

ทั้งนี้โมเดลแซนด์บ็อกซ์ Sandbox กระทรวงท่องเที่ยวฯจะเสนอให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) พิจารณาในวันที่ 19 มี.ค.นี้

ถก3จังหวัดใต้ นำร่อง"Sandbox"เปิดประเทศรับต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว

โมเดล แซนด์บ็อกซ์ Sandbox จะเริ่มดำเนินการในพื้นที่3จังหวัดท่องเที่ยวดังกล่าวก่อน เนื่องจากทั้ง 3 จังหวัดสร้างรายได้รวมกันมากถึง 6 แสนล้านบาท คิดเป็น 1 ใน 5 ของรายได้รวมการท่องเที่ยวไทยเมื่อปี 2562 ซึ่งสร้างรายได้ 3 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็น ภูเก็ต 4.7 แสนล้านบาท กระบี่ 1 แสนกว่าล้านบาท และพังงา 4.5 หมื่นล้านบาท

โมเดลแซนด์บ็อกซ์ Sandbox จะเปิดได้ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าประชาชนในพื้นที่นั้นต้องได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว70% ซึ่งทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯได้หารือกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เรื่องขอวัคซีนแก่ประชากรทั้ง 3 จังหวัดฝั่งอันดามันรวม 3 ล้านโดส เพื่อนำมาฉีดให้

ถก3จังหวัดใต้ นำร่อง"Sandbox"เปิดประเทศรับต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว

โดยตามไทม์ไลน์ที่รัฐบาลตั้งไว้คือตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเดินทางเข้าไทยแบบไม่ต้องกักตัวได้ 

แต่เราอยากทำให้เร็วกว่านั้น ก็หวังว่าจะเริ่มที่ภูเก็ตได้เป็นจังหวัดแรกในเดือนก.ค.นี้ภาย
ใต้เงื่อนไขต้องฉีดวัคซีนให้แก่ประชากรชาวภูเก็ตได้ 70% ของจำนวนประชากรทั้งหมดในพื้นที่ หรือคิดเป็นจำนวน 900,000 โดส แก่ประชากร 450,000 คน

การทำแซนด์บ็อกซ์ Sandbox จะต้องสัมพันธ์กับจำนวนวัคซีนที่ประชากรในพื้นที่นั้นๆ ได้รับ โดยมีความเป็นไปได้ที่จะเริ่มโมเดลนี้กับตลาดจีนให้มาเที่ยวไทยได้ก่อน

นายพิพัฒน์ ยังกล่าวต่อว่าหลังจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ได้คลี่คลายลงมากแล้วในขณะนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีแผนงานและแนวนโยบาย ในการกลับมาฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ให้กลับมาดีขึ้น โดยมีแผนการเปิดประเทศในรูปแบบต่างๆ ในลักษณะ Open System

ได้แก่ 1.ภายในเดือนเม.ย. - ก.ย. 64 จะเพิ่มการกักตัวในรูปแบบ Area Quarantine ที่จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ

1. ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว กักตัว 7 วัน หรือตามประกาศ ศบค.

2. ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคชน กักตัว 10 วัน หรือตามประกาศ ศบค.

3. ผู้ที่เดินทางมาจากทวีปแอฟริกา กักตัว 14 วัน
- รับนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ
- รับนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงกลาง เนื่องจากเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว
คุณภาพ ขนาดใหญ่ที่นำมาซึ่งรายได้สู่ประเทศไทย

ทั้งนี้ Area Quarantine จะเริ่มนำร่องใน7พื้นที่ ได้แก่จ.ภูเก็ต,พังงา,กระบี่ ,สุราษฎร์ธานี(เกาะสมุย-เกาะเต่า- เกาะพะงัน)ชลบุรี(พัทยา),เชียงใหม่,กรุงเทพ

2.ตั้งแต่เดือนต.ค. 64 เป็นต้นไป จะดำเนินการในลักษณะTrack & Trace
- ไม่ต้องกักตัวในบางพื้นที่
- ยกเลิก COE บางประเทศ
- ประชาชนในธุรกิจท่องเที่ยวต้องได้รับวัคซีนครบตามเป้าหมายที่กำหนด
- รับนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ
- รับนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงกลาง เนื่องจากเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว
คุณภาพขนาดใหญ่ที่นำมาซึ่งรายได้สู่ประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง