[caption id="attachment_45345" align="aligncenter" width="347"]
รศ.ดร.เนตร์พัณณา ยาวิราช ผู้จัดการโครงการวิจั ยมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชี พสาขาธุรกิจรักษาความปลอดภัย คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธั ญบุรี ร่วมกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) และผู้ประกอบการ จัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิ ชาชีพ สาขาอาชีพธุรกิจรักษาความปลอดภั ย โดยให้ข้อมูลว่า ผู้ประกอบการอาชีพรั กษาความปลอดภัยในปัจจุบันมี จำนวนมากถึง 5 แสนคน และคาดว่าจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามความต้องการขององค์การ หน่วยงานและชุมชนในสังคม การจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิ วิชาชีพ สาขาวิชาชีพธุรกิจรั กษาความปลอดภัยจึงมีความสำคั ญและจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งขณะนี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้ องกำลังร่วมกันจัดทำมาตรฐานอาชี พ โดยมีการประชุมคณะทำงานจั ดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิ ชาชีพ สาขาอาชีพธุรกิจรักษาความปลอดภั ย ไปแล้ว 5 ครั้ง ระหว่างเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2558 โดยแบ่งสาขาวิชาชีพเป็น 3 สายงานสำคัญ คือ 1.งานรักษาความปลอดภั ยอาคารสถานที่และทรัพย์สิน 2.งานรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคั ญเช่น ผู้นำประเทศ หรือบุคคลสำคัญจากต่างประเทศที่ เดินทางมายังประเทศไทย หรือที่เดินทางไปต่างประเทศ ผู้มีตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ รวมทั้งดารา ศิลปิน นักฟุตบอล นักร้อง นางงาม นักธุรกิจ ฯลฯ และ 3.งานรักษาความปลอดภัยขนส่งทรั พย์สินมีค่าเช่น รถขนเงินธนาคาร หรือพาหนะในการเคลื่อนย้ายทรั พย์สิน เช่น อัญมณี วัตถุโบราณ หรือของมีค่าต่าง ๆ ซึ่งล้วนเป็นทรัพย์สินที่ ประมาณค่ามิได้ จึงต้องดูแลเป็นอย่างดี จึงมีการจัดทำมาตรฐานอาชีพ[/caption]
“ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการช่ วยกันจัดทำ ซึ่งเบื้องต้นได้ข้อสรุ ปจากการประชุมรับฟังความคิดเห็ นของผู้อยู่ในอาชีพรั กษาความปลอดภัย ทุกภาคส่วนเห็นด้วยกับการจั ดทำมาตรฐานอาชีพสาขาธุรกิจรั กษาความปลอดภัย เพื่อยกระดับทรัพยากรมนุษย์ ในอาชีพให้มีมาตรฐานเช่นเดียวกั บนานาประเทศทั่วโลก เพื่อทำหน้าที่ป้องกัน รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรั พย์สินให้กับบุคคล สถานที่ เช่น โรงเรียน โรงงาน บริษัท ห้างร้าน หน่วยงาน สำนักงาน ธนาคาร อุตสาหกรรมต่าง ๆ และท่าอากาศยาน เป็นต้น และหากทำหลักสูตรมาตรฐานเสร็ จสมบูรณ์ สถานศึกษาสามารถนำไปใช้พัฒนาหลั กสูตรการเรียนการสอนให้ตรงกั บความต้องการของผู้ประกอบการได้ ทั้งยังช่วยเพิ่มขี ดความสามารถในการแข่งขั นของประเทศไทย และรองรับการเคลื่อนย้ ายแรงงานเสรีที่เกิ ดจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้ ด้วย” รศ.ดร.เนตร์พัณณา อธิบาย