ส.รับสร้างบ้านขับเคลื่อน HBA MODEL

18 เม.ย. 2559 | 07:59 น.
Breaking-News สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ทุ นมนุษย์ “HBA MODEL”ล่าสุดเปิดหลักสูตรอาชีวศึ กษาระบบทวิภาคี สาขาช่างเขียนแบบ สอดรับกับแนวนโยบายขับเคลื่อน “อาชีวะสร้างชาติ” ของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่หวังเห็ นการผลิตคนอาชีวะออกสู่ ตลาดแรงงานเพื่อเป็นพลังขับเคลื ่อนเศรษฐกิจประเทศให้เดินไปข้ างหน้า

ดร.พัชรา ตัณฑยรรยง กรรมการกิตติมศักดิ์ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA : Home Builder Association)เปิดเผยว่า จากแนวคิดและการขับเคลื่ อนนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับอาชีวะที่ จะก้าวมาเป็นกำลังหลักในการพั ฒนาประเทศ โดยอยากเห็นการพัฒนาด้านการผลิ ตการผลิตบุคลากรในภาคการศึกษาที ่สอดคล้องและตรงกับความต้ องการของผู้ประกอบการภาคเอกชน ซึ่งในส่วนของสมาคมธุรกิจรับสร้ างบ้านก็ได้เล็งเห็นถึงความสำคั ญของบุคลกรในส่วนของอาชีวศึ กษาเช่นเดียวกัน

แนวทางที่สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้ านดำเนินการมาเป็นเวลา 2-3 ปี รวมถึงการให้ความสำคัญถึงความยั ่งยืนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ภายใต้โครงการ HBA MODEL  ในการผลักดันการศึกษาให้เกิดขึ้ นในชื่อ “โครงการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี” เริ่มต้นที่การเปิดการเรี ยนการสอนในสาขาเทคนิคการควบคุ มการก่อสร้างระดับประกาศนียบั ตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่ างสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านร่ วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชี วศึกษา(สอศ.) ในการพัฒนาหลักสูตรที่ตอบโจทย์ ความต้องการของผู้ประกอบการรั บสร้างบ้าน โดยที่สำนักงานคณะกรรมการอาชี วศึกษา (สอศ.) ได้มอบหมายให้วิทยาลัยเทคนิคดุ สิต เป็นผู้ดำเนินการจัดการเรี ยนการสอน  ทั้งนี้ การเรียนการสอนภายใต้หลักสูตรนี ้จะผสมผสานระหว่างทฤษฎี และการปฏิบัติจริ งในสถานประกอบการ

โดยในช่วงวันศุกร์และเสาร์ จะเป็นเวลาของการเรียนภาคทฤษฎี โดยวิทยาลัยเทคนิคดุสิต ทำหน้าที่ดูแลการเรี ยนการสอนในส่วนนี้ เนื้อหาวิชาที่ต้องเรียน เช่น ระบบสุขาภิบาลในอาคาร เครื่องจักรกลงานก่อสร้าง การสำรวจเพื่อการก่อสร้าง เทคนิคก่อสร้าง ความแข็งแรงวัสดุ การทดสอบวัสดุ คอนกรีตเทคโนโลยี ทฤษฎีโครงสร้าง การบริหารและการจัดการงานก่อสร้ าง งานระบบท่อและสุขภัณฑ์ เป็นต้น

“ข้อดีของหลักสูตรนี้คือ ผู้เรียนจะได้รับความรู้ และประสบการณ์ในแบบ On the Job training มีพี่ๆ คอยให้คำปรึกษาและฝึกงานตลอด 2 ปีในหลักสูตร ระหว่างการเรียนนั้นน้องๆ จะได้ประสบการณ์การทำงานในหน้ าที่ผู้ช่วยผู้ควบคุมงานก่อสร้ าง พร้อมด้วยค่าตอบแทน 9,000 บาทต่อเดือน พร้อมทั้งค่าพาหนะ และที่พัก เมื่อเรียนจบก็จะได้ ทำงานในตำแหน่งผู้ควบคุมงานก่ อสร้างกับบริษัทซึ่งเป็นสมาชิ กของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านที่ เข้าร่วมโครงการ”

ทั้งนี้ เมื่อเรียนจบและผ่านการประเมิ นและทดสอบสมรรถนะจนได้รั บการบรรจุเข้าเป็นพนั กงานในตำแหน่งผู้ควบคุมงานก่ อสร้าง ถือว่าเป็นการประกันรายได้ ภายหลังจบการศึกษา ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท/เดือน

จากการดำเนินการที่ผ่านมา สมาคมฯ เชื่อว่าเดินทางถูกทางแล้วกั บการพัฒนากำลังคนที่ตอบโจทย์ ความต้องการของภาคธุรกิ จโดยตรงตามโครงการการจัดการอาชี วศึกษาระบบทวิภาคี สาขาวิชาเทคนิคการควบคุมงานก่ อสร้าง ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้ นสูง (ปวส.) หลังผลประเมินคุณภาพนักศึกษาทั้ ง 3 รุ่นที่ผ่านมาถือว่าเป็นที่น่ าพอใจ โดยรับนักศึกษารุ่นที่ 4พร้อมกับเปิดหลักสูตรใหม่ สาขาวิชาช่างเขียนแบบขึ้นอีกหลั กสูตร

“ทั้งผู้ควบคุมงานก่อสร้าง และช่างเขียนแบบ มีความสำคัญกับธุรกิจรับสร้างบ้ าน โดยถือว่ายังมีความต้องการรับบุ คลากรทางด้านนี้เป็นจำนวนมาก จึงต้องเร่งพัฒนาบุคลกรรุ่นใหม่ ๆ ขึ้นมารองรับความต้องการของธุ รกิจที่เพิ่มขึ้น โดยในรุ่นที่ 1 จบแล้วก็ได้กระจายไปทำงานในบริ ษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิก ส่วนรุ่น 2 ใกล้จะจบเร็วๆนี้ ขณะที่ รุ่นที่ 3 อยู่ระหว่างการเรียนการสอนในหลั กสูตร และเตรียมเปิดสอนในรุ่นที่ 4 ใน 29 เมษายนนี้”

สำหรับการเปิดรับนักศึกษาใหม่ ในปี 2559  ทางสมาคมฯ เตรียมเปิดสองสาขาด้วยกัน คือ เปิดรับน้องๆ ปวช.ที่สนใจเรียนต่อในระดับ ปวส.สาขาผู้ควบคุมงานก่อสร้าง ในขณะเดียวกันก็เปิดเพิ่มอีกหนึ ่งสาขาคือ เขียนแบบ

อีกหนึ่งภารกิจที่สมาคมธุรกิจรั บสร้างบ้านให้ความสำคัญก็คือ การจัดทำแผนการระดับมาตรฐานวิ ชาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาอาชีพช่างก่อสร้ างมาตรฐานอาชีพผู้ควบคุมการก่ อสร้าง ในระดับ 4-5 หรือเทียบเท่า ปวส.และปริญญาตรี  ซึ่งปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็ จและเตรียมนำประกาศในราชกิจจานุ เบกษา ซึ่งหากประกาศใช้จะมีความสำคั ญอย่างมากต่อการพัฒนาและยกระดั บมาตรฐานให้แก่ธุรกิจรับสร้างบ้ านในระยะยาว

ซึ่งที่กล่าวมาเป็นการดำเนิ นงานของสมาคมฯ โดยมีเป้าหมายถึงการยกระดับขี ดความสามารถ และพัฒนาศักยภาพของบุ คลากรในสายอาชีพนี้ให้เป็นที่ ยอมรับตามมาตรฐานสากล ขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นกับการพั ฒนากำลังคนอาชีวศึกษาให้มีคุ ณภาพตรงกับความต้องการของผู้ ประกอบการมากขึ้น