เงินสะพัด1.2แสนล้าน ปั้นถนนคนเดิน‘กทม.-เชียงใหม่-นครสวรรค์’

27 ธ.ค. 2562 | 07:30 น.

รัฐบาลผนึกสมาคมการผังเมืองไทย-กฎบัตร กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากต่อเนื่อง ปี 63 ฉีดงบ 1,000 ล้าน กระจายลง 3 เมือง กทม.-เชียงใหม่-นครสวรรค์ ดึงนักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติ เข้าพื้นที่นับล้านคน คาดเงินสะพัด 1.2 แสนล้าน

 


รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก กระจายเม็ดเงิน ซึมผ่านโครงการต่างๆ ล่าสุดรัฐบาลผนึกสมาคมการผังเมืองไทย คณะกรรมการกฎบัตรแห่งชาติ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลฯ กระทรวงวัฒนธรรม สถาบันการศึกษา อย่างมหาวิทยาลัยศิลปากร ตลอดจนเอกชนชั้นนำ รวมพลังสร้างความแข็งแกร่ง ให้เศรษฐกิจประเทศขับเคลื่อนต่อเนื่องในปี 2563 ประเมินว่า จะเกิดการตื่นตัวให้กับคนในพื้นที่อย่างคึกคัก

 

 เปิด 3เมืองบูมเศรษฐกิจ

นายฐาปนา บุณยประวิตร นายกสมาคมการผังเมืองไทย ในฐานะกรรมการเลขานุการคณะกรรมการกฎบัตรแห่งชาติ (National Charter) กล่าวว่า สมาคมและคณะกรรมการกฎบัติแห่งชาติ เสนอ โครงการเร่งด่วนกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ต่อเนื่องตามนโยบายรัฐบาล เปิด 3 เมืองศักยภาพ ได้แก่ กรุงเทพ มหานคร นครสวรรค์ และเชียงใหม่ ให้เอกชนและท้องถิ่นร่วมจัดงานตามเอกลักษณ์ของเมือง ทั้งสตรีตฟู้ด ถนนคนเดิน ศิลปะ เรืองแสง โลหะปราสาท แสงสีเสียง การแสดง ร้านค้า ร้านอาหาร ศิลปะ ดนตรี พื้นเมือง พร้อมดึงนักลงทุนรายใหญ่ อย่างกลุ่มเซ็นทรัล กลุ่มซีพี ฯลฯ ออกบูธให้ความรู้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตลอดจนธุรกิจสตาร์ตอัพ ใช้งบประมาณปี 2563 วงเงิน 1,200 ล้านบาท ทำให้เกิดเงินสะพัดหมุนเวียน
1.2 แสนล้านบาท ทั้งนี้จะเริ่มจัดงานได้ภายในเดือนเมษายน 2563 ปลุกย่านสำคัญของเมืองให้ตื่นจากหลับ ก่อนขยายพื้นที่จัดงานถนนคนเดินไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศต่อไป

 

ยึดราชดำเนินปลุกเมืองเก่า

สำหรับในกรุงเทพมหานคร กระทรวงวัฒนธรรมร่วมมือกับคณะกรรมการกฎบัตรรัตนโกสินทร์ กรุงเทพมหานคร และมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดทำโครงการ Bangkok Digital Art and Design 2020 หรือ BIDD2020 โดยกทม.จะใช้พื้นที่บนถนนราชดำเนินกลางทั้ง 2 ฝั่งเป็นสถานที่จัดแสดงหลัก เป็นโซนนิทรรศการ และพื้นที่ชุมชนขนาดใหญ่ของเกาะรัตนโกสินทร์ ได้แก่ ชุมชนเยาวราช พาหุรัด เวิ้งนาครเขษม ท่าเตียน ท่าพระจันทร์ พระอาทิตย์ บางลำพู ย่านมรดก ชุมชนเก่าแก่ ซึ่งจะให้ผู้ประกอบการและชุมชนดั้งเดิมในพื้นที่ร่วมกันจัดกิจกรรม คาดว่างานเทศกาลศิลปะและการออกแบบดิจิทัลนานาชาติช่วง 30 วันนี้จะมีผู้เข้าชมไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านคน สามารถฟื้นฟูย่านและเศรษฐกิจพื้นที่เขตชั้นใน ได้แก่ ย่านสำเพ็ง พาหุรัด เวิ้งนาครเขษม ท่าเตียน ท่าพระจันทร์ แพร่งสรรพศาสตร์ บางลำพู และพื้นที่ต่อเนื่องได้


เงินสะพัด1.2แสนล้าน  ปั้นถนนคนเดิน‘กทม.-เชียงใหม่-นครสวรรค์’

 

ไฮไลต์“ปากนํ้าโพ”เรืองแสง

นายสมศักดิ์ อรุณสุรัตน์ รักษาการรองประธานกฎบัตรแห่งชาติและประธานสภาเทศบาลนครนครสวรรค์กล่าวว่า จังหวัดนครสวรรค์เป็นพื้นที่ที่ถูกทิ้งจากแผนการพัฒนาของประเทศ ทำให้ระบบเศรษฐกิจโดยรวมซบเซา จึงมีการร่วมวางแผนปรับปรุงฟื้นฟูเมืองธีมนครสวรรค์เรืองแสง กิจกรรมเทศกาลศิลปะ การแสดง อาหาร และสุขภาพแห่งลุ่มนํ้าเจ้าพระยาที่ใหญ่ที่สุดของพื้นที่บริเวณนี้

ขณะพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นายไพรัช โตวิวัฒน์ ประธานปฏิบัติการกฎบัตรเชียงใหม่ ระบุว่าจากหมอกควันและการตกตํ่าทางเศรษฐกิจอย่างหนัก สภาพการท่องเที่ยวแทบจะแบ่งฤดูการท่องเที่ยวกับฤดูนอกท่องเที่ยวไม่ออก เนื่องจากทั้ง 2 ฤดูมีนักท่องเที่ยวลดจำนวนลงพอๆ กัน ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการกฎบัตรเชียงใหม่จึงจัดทำโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจสร้างสรรค์ทั่วทั้งจังหวัด โดยให้พื้นที่เมืองเก่าเป็นไข่แดง จัดงานเทศกาลวัฒนธรรมเชียงใหม่นานาชาติด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ภายใต้ชื่อ Chiangmai Creative Mind 2020 โดยเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤศจิกายน 2563 คาดหวังจะมีผู้เข้าชม 2 ล้านคน

 

เชียงใหม่เน้นรักษ์สิ่งแวดล้อม

ขณะเดียวกัน นายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การจัดงานนี้เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้ทุกจังหวัดจัดกิจกรรมในรูปแบบถนนคนเดินสร้างรายได้ให้ประชาชน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอัตลักษณ์วัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ รวมถึงจัดกิจกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ภายใต้การบูรณาการจัดงานแบบประชารัฐ โดยกำหนดจัดกิจกรรมพร้อมกันทั่วประเทศ ช่วงที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ “เดิน กิน ชิม เที่ยว ถนนกลางเวียงเจียงใหม่” โดยใช้ถนนราชดำเนินและถนนพระปกเกล้า บริเวณอนุสาวรีย์สามกษัตริย์
ซึ่งเชื่อมต่อจากถนนคนเดินกลางตัวเมือง หรือที่รู้จักกันในชื่อ ถนนคนเดินท่าแพ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกวันอาทิตย์อยู่แล้ว รวมระยะทางประมาณ 300 เมตร เน้นจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เช่น สินค้าเกษตร สินค้าโอท็อป สินค้าวัฒนธรรม สินค้าพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากมือ ผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวง และสินค้าอื่นๆ อีกมาก รวมทั้งยังมีการนำศิลปวัฒนธรรมกิจกรรมการแสดงของเด็กและเยาวชน และกิจกรรมของหน่วยงานต่างๆ มาจัดแสดงในงานให้ได้รับชม
อีกด้วย

นอกจากนี้ยังสอดแทรกการรณรงค์ในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมควบคู่อีกด้วย โดยจะขอความร่วมมือให้พ่อค้าแม่ค้าลดการใช้ถุงพลาสติก แล้วหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่รักษาสิ่งแวดล้อมแทน รวมถึงจะมีการจัดเตรียมถังขยะสำหรับคัดแยกขยะประเภทต่างๆ กระจายไว้ทั่วบริเวณจัดงาน และขอให้ประชาชนที่มาถนนคนเดิน นำถุงผ้ามาใช้ใส่ของ เพื่อร่วมกันลดปัญหาโลกร้อน 

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3534 วันที่ 26-28 ธันวาคม 2562