จับตา‘ลงทุน-การเมือง’ ชี้ชะตาจีดีพีครึ่งปีหลังฟื้นยั่งยืน?
นักเศรษฐศาสตร์ประเมินเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังยังมีความเสี่ยงด้านการลงทุนภาคเอกชนที่ยังชะลอตัวต่อเนื่อง กดดันการบริโภคซบต่อ แบงก์ชาติมั่นใจจีดีพีโตเข้าเป้า 3.5% ส่วนเงินบาทแข็งค่ายังแข่งขันได้
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 มีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวดีและทั่วถึงมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากอุปสงค์ในต่างประเทศที่ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยมูลค่าการส่งออกในช่วง 6 เดือนแรกขยายตัวแล้ว 7.4% คิดเป็นมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 1.124 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือขยายตัวเฉลี่ยเดือนละ 1.87 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ธปท.ระบุว่า หากต้องการให้การส่งออกขยายตัวตามเป้าหมาย 5% หรือคิดเป็นมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 2.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงที่เหลือของปีการส่งออกจะต้องเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 2.7% หรือคิดเป็นมูลค่าการเติบโตอยู่ที่ 1.88 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือนคาดว่าน่าจะเติบโตได้ตามคาดการณ์
การส่งออกที่ขยายตัวดีขึ้นมาจากอุปสงค์จากต่างประเทศ แต่หากดูตัวเลขความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออก จะเห็นว่าตัวเลข REER ดัชนีค่าเงินบาทที่แท้จริงไม่ได้แข็งค่าขึ้นมากเมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้า
ขณะเดียวกันในช่วงสั้นความเชื่อมั่นของเงินดอลลาร์ ยังไม่ดี ยังมีทิศทางอ่อนค่าลง ส่วนหนึ่งมาจากตลาดประมาณ 40% คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ แต่ธปท.ยังคงเชื่อว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยอยู่ แต่จะขึ้นอยู่กับข้อมูลการเปลี่ยนแปลงตัวเลขเศรษฐกิจด้วย
สำหรับเศรษฐกิจในประเทศยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐและการบริโภคภาคเอกชนค่อนข้างทรงตัว โดยการลงทุนในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ดีขึ้น ช่วยชดเชยการลงทุนในภาคการก่อสร้างที่หดตัว โดยการลงทุนภาคเอกชนคาดการณ์ทั้งปีอยู่ที่ 1.8% โดยตัวเลขไตรมาสที่ 1 ขยายตัวอยู่ที่ 1.1% คาดว่าทั้งปีน่าจะขยายตัวได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการก่อสร้างและส่งออกจะขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐ จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 3 หลังจากชะลอตัวลง โดยภาครัฐพยายามผลักดันทยอยลงนามในสัญญาก่อสร้างโครงการต่างๆ มากขึ้น
[caption id="attachment_167258" align="aligncenter" width="503"]
นายดอน นาครทรรพ[/caption]
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท.กล่าวว่าแนวโน้มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) ในไตรมาสที่ 2 ขยายตัวทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาสแรกที่ระดับ 3.3% หากต้องการให้จีดีพีขยายตัวได้ตามกรอบเป้าหมายทั้งปี 3.5% ในช่วงครึ่งหลังของปีจะต้องมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 3.7%
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจในครึ่งปีหลังยังเผชิญความเสี่ยงจากภาคการลงทุนเอกชนที่ยังหดตัวต่อเนื่อง แต่คาดว่าจะดีขึ้นในไตรมาสที่ 4 จากการส่งออกที่ยังขยายตัว
การบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวตํ่า จากปัจจัยเงินเฟ้อที่ชะลอตัว สะท้อนว่าผู้บริโภคไม่จับจ่าย แม้ว่ารายได้ภาคเกษตรจะดีขึ้น แต่ไม่ยั่งยืน ขณะที่รายได้ของมนุษย์เงินเดือนไม่เพิ่มขึ้น ส่วนการลงทุนภาครัฐแม้จะมีการลงทุนต่อเนื่องแต่ยังขาดประ สิทธิภาพ
“ปัจจัยการเมืองจากที่ได้ซาวเสียงจากต่างชาติ มองเป็นทั้งโอกาสและเสี่ยง โอกาสคือ เชื่อว่าไม่มีอะไรเลวร้ายสุดกว่าสหรัฐฯแล้ว ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ทำอะไรไม่ได้เลย ส่วนความเสี่ยง คือจุดไม่ดีของเราที่ยังมีปัญหาเรื่องคอร์รัปชัน”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,284 วันที่ 3 -5 สิงหาคม พ.ศ. 2560
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 มีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวดีและทั่วถึงมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากอุปสงค์ในต่างประเทศที่ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยมูลค่าการส่งออกในช่วง 6 เดือนแรกขยายตัวแล้ว 7.4% คิดเป็นมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 1.124 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือขยายตัวเฉลี่ยเดือนละ 1.87 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ธปท.ระบุว่า หากต้องการให้การส่งออกขยายตัวตามเป้าหมาย 5% หรือคิดเป็นมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 2.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงที่เหลือของปีการส่งออกจะต้องเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 2.7% หรือคิดเป็นมูลค่าการเติบโตอยู่ที่ 1.88 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือนคาดว่าน่าจะเติบโตได้ตามคาดการณ์
ขณะเดียวกันในช่วงสั้นความเชื่อมั่นของเงินดอลลาร์ ยังไม่ดี ยังมีทิศทางอ่อนค่าลง ส่วนหนึ่งมาจากตลาดประมาณ 40% คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ แต่ธปท.ยังคงเชื่อว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยอยู่ แต่จะขึ้นอยู่กับข้อมูลการเปลี่ยนแปลงตัวเลขเศรษฐกิจด้วย
สำหรับเศรษฐกิจในประเทศยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐและการบริโภคภาคเอกชนค่อนข้างทรงตัว โดยการลงทุนในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ดีขึ้น ช่วยชดเชยการลงทุนในภาคการก่อสร้างที่หดตัว โดยการลงทุนภาคเอกชนคาดการณ์ทั้งปีอยู่ที่ 1.8% โดยตัวเลขไตรมาสที่ 1 ขยายตัวอยู่ที่ 1.1% คาดว่าทั้งปีน่าจะขยายตัวได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการก่อสร้างและส่งออกจะขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐ จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 3 หลังจากชะลอตัวลง โดยภาครัฐพยายามผลักดันทยอยลงนามในสัญญาก่อสร้างโครงการต่างๆ มากขึ้น
[caption id="attachment_167258" align="aligncenter" width="503"]
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท.กล่าวว่าแนวโน้มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) ในไตรมาสที่ 2 ขยายตัวทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาสแรกที่ระดับ 3.3% หากต้องการให้จีดีพีขยายตัวได้ตามกรอบเป้าหมายทั้งปี 3.5% ในช่วงครึ่งหลังของปีจะต้องมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 3.7%
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจในครึ่งปีหลังยังเผชิญความเสี่ยงจากภาคการลงทุนเอกชนที่ยังหดตัวต่อเนื่อง แต่คาดว่าจะดีขึ้นในไตรมาสที่ 4 จากการส่งออกที่ยังขยายตัว
การบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวตํ่า จากปัจจัยเงินเฟ้อที่ชะลอตัว สะท้อนว่าผู้บริโภคไม่จับจ่าย แม้ว่ารายได้ภาคเกษตรจะดีขึ้น แต่ไม่ยั่งยืน ขณะที่รายได้ของมนุษย์เงินเดือนไม่เพิ่มขึ้น ส่วนการลงทุนภาครัฐแม้จะมีการลงทุนต่อเนื่องแต่ยังขาดประ สิทธิภาพ
“ปัจจัยการเมืองจากที่ได้ซาวเสียงจากต่างชาติ มองเป็นทั้งโอกาสและเสี่ยง โอกาสคือ เชื่อว่าไม่มีอะไรเลวร้ายสุดกว่าสหรัฐฯแล้ว ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ทำอะไรไม่ได้เลย ส่วนความเสี่ยง คือจุดไม่ดีของเราที่ยังมีปัญหาเรื่องคอร์รัปชัน”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,284 วันที่ 3 -5 สิงหาคม พ.ศ. 2560