ราคาน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ขานรับกลุ่มโอเปกปรับลดกำลังการผลิตในเดือน ม.ค.
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 9 ม.ค.2560
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หลังได้รับแรงหนุนจากข่าวการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตน้ำมันดิบในกลุ่มโอเปกที่เริ่มดำเนินการแล้วในเดือนนี้ โดยซาอุดิอาระเบียผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของกลุ่มได้ดำเนินการลดกำลังการผลิตประมาณ 486,000 บาร์เรลต่อวันลง มาแตะระดับ 10.06 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ม.ค. 60 แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือกล่าวว่าน้ำมันดิบที่ถูกปรับลดลงโดยส่วนใหญ่คือ น้ำมันดิบ Arab Medium และน้ำมันดิบ Arab Heavy
+ นอกจากนี้ คูเวตกล่าวได้ทำการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ม.ค. มาอยู่ที่ระดับ 2.707 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 2.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก่อนหน้า ซึ่งระดับดังกล่าวเป็นระดับที่ต่ำกว่าปริมาณการผลิตที่ได้ทำการตกลงไว้ในข้อตกลงที่ 2.838 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นและส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่อง หลังค่าจ้างของแรงงานในสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค. 59 เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 2.9 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบหลายปีนับตั้งแต่ปี 52 ส่งผลให้ตลาดคาดว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มจะปรับขึ้นในอนาคตและส่งผลให้โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสูงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 158,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 178,000 ตำแหน่ง
- ปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ รายงานโดย Baker Hughes สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้นจำนวน 4 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 529 แท่น ซึ่งระดับดังกล่าวนับเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 58
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันเบนซินในตลาดสหรัฐฯ (NYMEX) ที่ปร้บลดลง เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 8.3 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า ประกอบกับ อุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ที่มากขึ้นจากประเทศอียิปต์และอินโดนีเซีย โดยคาดว่าอุปสงค์ที่ปรับเพิ่มขึ้นจะช่วยลดอุปทานส่วนเกินในภูมิภาคเอเชียลงได้
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 52-57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 54-59 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการปรับลดปริมาณการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกซึ่งมีผลเป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคม 60 เป็นต้นไป โดยล่าสุดผู้ผลิตในกลุ่มโอเปก ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ทำการปรับลดกำลังการผลิตลงแล้วในเดือนนี้ ส่วนผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกอย่างโอมาน เผยว่าเตรียมจะลดกำลังการผลิตลงโดยเฉลี่ยร้อยละ 5 ในเดือน มี.ค. 60 อย่างไรก็ดี ยังคงต้องจับตามองการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 21 – 22 ม.ค. 60 ณ กรุงเวียนนา
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ รายงานโดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค. 59 ปรับลดลงราว 7.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากโรงกลั่นเพิ่มกำลังการกลั่นสูงขึ้นในช่วงปลายปีเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ภายหลังจากการเปิดดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันที่เชื่อมกับแหล่งน้ำมันดิบ El Sharara กำลังการผลิต 0.35 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ El Feel กำลังการผลิต 0.09 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ล่าสุดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียปรับเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับเกือบ 0.70 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 0.60 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก่อนหน้า
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หลังได้รับแรงหนุนจากข่าวการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตน้ำมันดิบในกลุ่มโอเปกที่เริ่มดำเนินการแล้วในเดือนนี้ โดยซาอุดิอาระเบียผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของกลุ่มได้ดำเนินการลดกำลังการผลิตประมาณ 486,000 บาร์เรลต่อวันลง มาแตะระดับ 10.06 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ม.ค. 60 แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือกล่าวว่าน้ำมันดิบที่ถูกปรับลดลงโดยส่วนใหญ่คือ น้ำมันดิบ Arab Medium และน้ำมันดิบ Arab Heavy
+ นอกจากนี้ คูเวตกล่าวได้ทำการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ม.ค. มาอยู่ที่ระดับ 2.707 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 2.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก่อนหน้า ซึ่งระดับดังกล่าวเป็นระดับที่ต่ำกว่าปริมาณการผลิตที่ได้ทำการตกลงไว้ในข้อตกลงที่ 2.838 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นและส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่อง หลังค่าจ้างของแรงงานในสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค. 59 เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 2.9 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบหลายปีนับตั้งแต่ปี 52 ส่งผลให้ตลาดคาดว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มจะปรับขึ้นในอนาคตและส่งผลให้โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสูงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 158,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 178,000 ตำแหน่ง
- ปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ รายงานโดย Baker Hughes สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้นจำนวน 4 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 529 แท่น ซึ่งระดับดังกล่าวนับเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 58
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันเบนซินในตลาดสหรัฐฯ (NYMEX) ที่ปร้บลดลง เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 8.3 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า ประกอบกับ อุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ที่มากขึ้นจากประเทศอียิปต์และอินโดนีเซีย โดยคาดว่าอุปสงค์ที่ปรับเพิ่มขึ้นจะช่วยลดอุปทานส่วนเกินในภูมิภาคเอเชียลงได้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 52-57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 54-59 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการปรับลดปริมาณการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกซึ่งมีผลเป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคม 60 เป็นต้นไป โดยล่าสุดผู้ผลิตในกลุ่มโอเปก ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ทำการปรับลดกำลังการผลิตลงแล้วในเดือนนี้ ส่วนผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกอย่างโอมาน เผยว่าเตรียมจะลดกำลังการผลิตลงโดยเฉลี่ยร้อยละ 5 ในเดือน มี.ค. 60 อย่างไรก็ดี ยังคงต้องจับตามองการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 21 – 22 ม.ค. 60 ณ กรุงเวียนนา
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ รายงานโดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค. 59 ปรับลดลงราว 7.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากโรงกลั่นเพิ่มกำลังการกลั่นสูงขึ้นในช่วงปลายปีเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ภายหลังจากการเปิดดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันที่เชื่อมกับแหล่งน้ำมันดิบ El Sharara กำลังการผลิต 0.35 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ El Feel กำลังการผลิต 0.09 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ล่าสุดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียปรับเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับเกือบ 0.70 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 0.60 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก่อนหน้า
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์