31 พ.ค. ลุ้น ศาลไฟเขียว “วงศ์บัณฑิต”  ฟื้นฟูกิจการ

01 มี.ค. 2564 | 07:46 น.

“บอสวงศ์บัณฑิต” เคลียร์ชัด บริษัทไม่ได้ล้มละลาย เข้าแผนฟื้นฟู ถอดบทเรียน “ทีพีไอ-การบินไทย”  แจงเป็นข้อดี  31 พ.ค. ศาลนัดไต่สวน ลุ้น ไฟเขียว พลิกธุรกิจฟื้น

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 ศาลล้มละลายกลาง ประกาศ คดีหมายเลขดำที่ ฟฟ8/2564 ถึงนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท/พนักงานพิทักษ์ทรัพย์/เจ้าหนี้/ลูกหนี้ ด้วยคดี เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 บริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด ลูกหนี้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางว่าลูกหนี้หนี้สินล้นพ้นตัว หรือไม่สามารถที่จะชำระหนี้ได้ตามกำหนดได้ และเป็นเจ้าหนี้คนเดียวหรือหลายคนรวมกันไม่น้อยกว่าสิบล้านบาท

 

แต่กิจการของลูกหนี้ยังมีเหตุอันสมควรและมีช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย 2483 มาตรา 90/10 ศาลได้รับคำร้องเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 และกำหนดนัดไต่สวนคำร้อง วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เวลา 09.00 น.  นั้น

ท.พ.พงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต

 

ท.พ.พงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต  กรรมการผู้จัดการบริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด เป็นบริษัท หนึ่งใน 5 บริษัทผู้ผลิตและส่งออกยางพารา ยางธรรมชาติรายใหญ่ของประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”  ว่า ทางบริษัท ได้ขอยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ เป็นความจริง แต่ข้อความเป็นคำพูดของศาล ดูเหมือนน่ากลัว เพราะเป็นข้อความที่ออกมาจากศาลล้มละลายกลาง สืบเนื่องจากประเทศไทยการฟื้นฟูต้องไปยื่นที่ศาลล้มละลายกลาง จึงทำให้สังคมคิดว่าบริษัทล้ม เรียบร้อยแล้ว ทำให้ต้องมาตอบทุกคนว่าบริษัทไม่ได้ล้มละลาย

 

แต่การฟื้นฟู ต้องไปขอที่ศาลล้มละลาย บริษัทก็ฟื้นฟูกิจการ เหมือนกับ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “ทีพีไอ” หรือ บมจ. การบินไทย  สังเกตไหม ว่าการฟื้นฟูเป็นเรื่องที่ดี พอได้เข้าแผนฟื้นฟูฯ  จะทำให้บริษัทมีความแข็งแรงขึ้นในอนาคต จะเป็นการดีกับสังคมยางพาราต่อไป

 

อย่างไรก็ดี สาเหตุที่เกิดปัญหากับบริษัท ก็มาจากปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ประกอบกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประกอบกับมีบริษัท หลายเจ้าก่อนหน้านี้ล้ม และมีการเทคโอเวอร์ ทำให้ทางธนาคารดึงเงินกลับ พอดึงเงินกลับไป ธนาคารปล่อยสินเชื่อได้น้อยลง ก็ทำให้บริษัทซื้อยางได้น้อยลง และส่งผลปัญหามาถึงปัจจุบันนี้ จึงทำให้บริษัท จำเป็นที่จะต้องเข้าแผนฟื้นฟูกิจการฯ ตามที่ศาลล้มละลายกลางประกาศ ว่าจะมีการนัดไต่สวนคำร้องใน วันที่ 31 พฤษภาคม 2564

 

ท.พ.พงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า  ราคายางพาราในระยะนี้ ยังคงปรับตัวสูงอยู่ เพราะเป็นช่วงฤดูยางผลัดใบ แต่ว่าสถานการณ์ช่วงฤดูยางเปิดกรีด (เดือน พ.ค.64) ยังมองไม่ออก เพราะไม่ทราบว่า "โควิด"  หรือ "เศรษฐกิจโลก" จะพาไปอย่างไร ตอนนี้เรามีหุ้นกับบริษัทถุงมือยางอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ทำใหญ่แบบ กลุ่มศรีตรัง  ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดนี้จะทำได้ก็ต้องเข้าแผนฟื้นฟูฯ ก่อน