วอนครม.ใหม่ พักหนี้ยาวฟื้นศก.

มีพระบรมราชโองการประกาศแต่งตั้งครม. “ประยุทธ์2/2” รวม 8 ตำแหน่ง กระทรวงเศรษฐกิจมีรัฐมนตรีตัวจริงเข้ามาขับเคลื่อนงานแล้ว “ฐานเศรษฐกิจ” สำรวจผู้นำธุรกิจ-นักวิชาการ เชื่อว่าน่าจะขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจไปได้ ฝากภารกิจเร่งด่วนที่ต้องรีบขับเคลื่อนอย่าให้ขาดช่วง คือ เติมทุนหมุนเวียนเพื่อให้ธุรกิจฝ่าวิกฤติ พร้อมขอขยายมาตรการพักหนี้-เยียวยาลูกจ้างตกงานถึงสิ้นปี

นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน  (กกร.) กล่าวว่า ภาคเอกชนเคยทำงานกับทีมเศรษฐกิจใหม่รัฐบาลอยู่แล้ว จากนี้คือรอดูการขับเคลื่อนงาน ภารกิจเร่งด่วนจากนี้คือ การกำกับดูแลแผนงานเดิมที่ดีอยู่แล้วให้เดินหน้าต่อ เช่น การเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด การเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลทำไว้ในช่วงไวรัสโควิด อยากให้ขยายระยะเวลาออกไปจนถึงสิ้นปี เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนประชาชน และผลักดันการใช้เงินงบประมาณที่ทำได้ทันที เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในชุมชน

ด้านนายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า ผู้ประกอบการเข้าไม่ถึงซอฟต์โลนได้ จึงเสนอทีมเศรษฐกิจใหม่ให้ตั้งกองทุนท่องเที่ยว วงเงิน 1 แสนล้านบาท โดยมีผู้บริหารกองทุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน เข้ามาดูแลกองทุนในการปล่อยกู้ให้ธุรกิจฝ่าวิกฤติไปได้ และดูแลให้กองทุนมีรายได้ เมื่อการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว และเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต

รวมทั้งเวลานี้มีแรงงานภาคท่องเที่ยวตกงานไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน ขอให้รัฐมนตรีแรงงานใหม่ ขยายเวลาให้ลูกจ้างภาคท่องเที่ยว ได้รับสิทธิประโยชน์ว่างงานเหตุ สุดวิสัยจากประกันสังคม ที่จะสิ้นสุดในเดือนส.ค.นี้ขอขยายออกไปถึงสิ้นปี ดูแลถ้าปิดกิจการเลิกจ้าง และให้พิจารณาจับคู่ประเทศเปิดท่องเที่ยว(ทราเวล บับเบิล)

กระตุ้นอสังหาฯ

ด้านนายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)(NOBLE) จี้รัฐบาลรีบเรียกความเชื่อมั่นให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้ เร่งระบบสินเชื่อกลับมาทำงานได้สมบูรณ์แบบ และออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ เสนอรัฐออก มาตรการส่งเสริมการปล่อยสินเชื่อใหม่ โดยปลดล็อก ผ่อนคลายความเข้มงวด เพิ่มกำลังซื้อทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยเดินหน้าต่อไปได้ และยังช่วยแก้ปัญหาซัพพลายรอดูดซับที่มีจำนวนมากได้อีกด้วย

งบถึงขีดจำกัด

ด้านรศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์ วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ ก็กล่าวว่า โจทย์ใหญ่สุดรัฐบาลตอนนี้คือกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อชะลอธุรกิจเจ๊ง ชะลอคนตกงาน ที่จะมีปัญหาใหญ่มากขึ้น และต้องทำมาตรการอย่างมีประสิทธิภาพมาก เพราะงบประมาณที่มีอยู่เป็นตัวจำกัดขอบเขต จากกองที่ 1 งบรายจ่ายปี 2563 จะจบในกันยายนนี้มีงบเก่า8.8หมื่นล้านบาท 2.พ.ร.ก.กู้ 1.9 ล้านล้านบาท และ 3.งบรายจ่ายปี 2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท เป็นงบลงทุน 6 แสนล้าน ที่จะเอามาใช้กระตุ้น และพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขัน ทั้ง3กองติดเพดานแล้ว เพราะหนี้สาธารณะถึงขีด 5.9%ของจีดีพีแล้ว

ภูธรเร่งเติมทุน

ด้านนายวโรดม ปิฎกานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ทีมเศรษฐกิจใหม่ต้องรีบเข้ามาสานต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ทีมเก่าทำไว้โดยเร็วอย่าให้ขาดช่วง สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการความช่วยเหลือที่สุดในเวลานี้คือเรื่องของเงินทุนหมุนเวียน และควรขยายการพักชำระหนี้ที่จะหมดเดือนกันยายนนี้ออกไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน

ขณะที่นายบุญชู ศัยศักดิ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตรังผลิตภัณฑ์อาหารทะเล จำกัด และผู้บริหารร้านทอง ตุ้นเฮงหลี 4 สาขา กล่าวว่า รัฐมนตรีคลังคนใหม่มาจากสายแบงก์ วิธีคิดคงไม่ต่างจากเดิมที่ก็ไม่ได้มีอะไรใหม่ ภาคเอกชนไม่ได้คาดหวังอะไรจากรัฐบาล เพราะที่ผ่านมาต้องช่วยเหลือตัวเองมาตลอด รัฐบาลต้องให้นโยบายแบงก์ชาติสั่งการแบงก์พาณิชย์ ให้พักชำระหนี้ผู้ได้รับผลกระทบ 2 ปี ปล่อยกู้ให้ลูกค้าเก่ามีทุนหมุนเวียนไปเดินธุรกิจได้ และต้องไม่ตัดลดวงเงินลูกค้าเดิม 

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ  ฉบับที่ 3,599 วันที่ 9 - 12 สิงหาคม พ.ศ. 2563