ปี62 หงอย ม้วนเสื่อ600ราย อุตฯของขวัญปรับทัพรับปี63
ปัจจัยเสี่ยงปี63 ยังรุมทั้งบาทแข็ง-เศรษฐกิจโลก-ต้นทุนสูง สมาคมของขวัญของชำร่วยฯ แนะผู้ประกอบการปรับตัวรับมือปี 63 เน้นพัฒนาสินค้านวัตกรรม-แพ็กเกจจิ้ง หลังปี 62 ปิดกิจการกว่า 600 ราย ส่งออกติดลบ 3%
นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ นายกสมาคมของขวัญของชำร่วย และของตกแต่งบ้าน เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์ตลาดของชำร่วยและของตกแต่งบ้านปี 2562 ว่า เป็นปีที่ค่อนข้างลำบากสำหรับผู้ประกอบการเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการรายเล็ก ๆ ที่มีกำลังไม่เท่ารายใหญ่ที่อาจจะล้มหายตายจากไปในวงการ ซึ่งทั้งปีมีประมาณ20% (ประมาณ 600 ราย)ของจำนวนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมประมาณ 3,000 ราย ดังนั้นในปี2563 ผู้ประกอบต้องปรับตัวให้ทันกับกระแสการเปลี่ยนของโลกที่การซื้อขายจะมีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น และมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการพัฒนาและออกแบบสินค้าใหม่ ๆ ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นให้มากขึ้น
นอกจากนี้ขอให้ภาครัฐให้การส่งเสริมสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้ต่อเนื่อง โดยมีมาตรการช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุน ทั้งนี้สินค้าที่จะได้รับความนิยมและมาแรงในปี 2563 คือ ถุงผ้า ที่จะมาตามความต้องการของตลาด จากนโยบายเลิกใช้ถุงพลาสติก ซึ่งผู้ประกอบการรายเล็กสามารถมีส่วนร่วมในการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายได้
สำหรับปัจจัยเสี่ยงในปี 2563 ได้แก่ ค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่ามาก ทำให้สินค้าไทยมีราคาแพงเมื่อเทียบคู่แข่งขัน ,การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจของตลาดหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน และสหภาพยุโรป ทำให้ชะลอการสั่งซื้อ,ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น, สินค้าที่ต้องพึ่งพาแรงงานฝีมือถดถอยลง จากแรงงานฝีมือหายไป,ค่าจ้างแรงงานฝีมือที่แพงขึ้นด้วยกลไกของตลาด รวมถึงปัญหาเดิม ๆ คือการเข้าถึงแหล่งทุนของผู้ประกอบการขนาดเล็ก การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการทำงานยังมีน้อยยังคงเป็นปัจจัยที่ผู้ประกอบการยังเผชิญอยู่