แหล่งข่าวกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน นัดเจรจาผู้ประกอบการที่อุทธรณ์นมโรงเรียนที่ร้องจัดสรรไม่เป็นธรรม มีรายงานเบื้องต้น พื้นที่เขต1- 5 ได้แก่ 1.สหกรณ์โคนมหนองโพหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) 2.บริษัท สุราษฎร์เฟรชมิลค์ จำกัด 3.สหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์ค อ่าวน้อย จำกัด 4.สหกรณ์โคนมกำแพงแสน จำกัด 5.สหกรณ์โคนมนครปฐม และ 6.สหกรณ์โคนมพัทลุง 7.สหกรณ์โคนมขอนแก่น 8.สหกรณ์โคนมสอยดาว จำกัด 9.บจก.ธวัชฟาร์ม 10.บจก.โกลด์มิลด์ จำกัด 11.สหกรณ์โคนมโคกก่อ 12.สหกรณ์โคนมอุดรธานี 13.สหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จำกัด และ14.สหกรณ์โคนมบ้านบึง
ด้านนายนพดล เจริญกิตติ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม หรือมิลค์บอร์ด กล่าวตั้งข้อสังเกตวา ถ้าวันนี้ไม่มีที่ขายน้ำนมดิบจริงวันละ 100 ตัน มาถึงปัจจุบันต้องเททิ้งน้ำนมดิบไม่ต่ำกว่า 2,000 ตันแล้ว แต่รอบนี้เอาเกษตรกรเป็นตัวประกันเพราะมีการแทรกแซงจากคนส่งนมในคณะอนุกรรมการฯ ที่ทำหน้าที่จัดสรรสิทธิทำให้หลักเกณฑ์มีช่องโหว่และคนฉวยโอกาสแหกช่องโหว่แค่ 2 สหกรณ์กับ 1 รัฐวิสาหกิจที่คนส่งนมมีอิทธิพลในธุรกิจนมโรงเรียนเข้าไปแทรกแซง
“วันนี้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนคือเรียกร้องกลับไปเหมือนปีที่แล้ว แต่ระบบปฏิรูปนมใหม่ในครั้งนี้มีข้อผิดพลาดเพียงเรื่องเดียวคือการจัดการ "โลจิสติก" ที่ไม่ได้ยึด "นมพาสเจอร์ไรซ์" เป็นตัวตั้งเพราะระยะทางไกลมากไปส่งไม่ได้”
อย่างไรก็ดีหากมีกลุ่มพื้นที่อื่นๆ ทยอยส่งมา “ฐานเศรษฐกิจ” จะเกาะติดรายงานอย่างต่อเนื่อง