กรมตรวจบัญชีสหกรณ์รุกส่งเสริมบัญชีครัวเรือนสู่ชุมชนตะเข็บชายแดน

07 มิ.ย. 2559 | 09:18 น.
นายสมปอง อินทร์ทอง อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากภารกิจของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในการส่งเสริมองค์ความรู้ทางบัญชีสู่ประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศผ่านสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ประจำจังหวัดและเครือข่ายครูบัญชีอาสาทั่วประเทศ ส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายสามารถทำบัญชีได้ วิเคราะห์บัญชีเป็น และใช้บัญชีเป็นคู่มือในการดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นคง ซึ่งระบบบัญชีสามารถแก้ไขปัญหาทางการเงินและพัฒนาให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลโดยดำริของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญต่อการสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน ของประชาชน ด้วยการส่งเสริมการทำบัญชีครัวเรือน  โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้ดำเนินการสร้างรูปแบบบัญชีและการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางบัญชีสู่ประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง  โดยล่าสุดได้ขยายสู่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลตามตะเข็บชายแดน

ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลในการดำเนินงานส่งเสริมองค์ความรู้ทางบัญชี เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พบว่าประชาชนในพื้นที่แนวตะเข็บชายแดนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ยังมีประชากรที่ไม่รู้ภาษาไทย อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้เรื่องการทำบัญชี  แต่ประชาชนกลุ่มนี้ยังมีความสนใจในการจดบันทึกบัญชี โดยจดเป็นตัวหนังสือภาษาถิ่นแทนภาษาไทย

“ปัจจุบันยังมีประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลตามแนวตะเข็บชายแดน พื้นที่สูง และพื้นที่ราบสูงทั่วทุกภูมิภาคของประเทศที่ไม่รู้ภาษาไทยแต่มีความสนใจในการทำบัญชีครัวเรือน บัญชีต้นทุนอาชีพ โดยจดบันทึกเป็นภาษาถิ่นแทน อาทิ ภาษาลาหู่ในพื้นที่สูงทางภาคเหนือ ภาษายาวีในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้เห็นความสำคัญของการส่งเสริมองค์ความรู้ทางบัญชีสู่ประชาชนกลุ่มนี้ ให้สามารถจดบันทึกบัญชีอย่างง่าย ถูกต้อง และมีมาตรฐาน เพื่อนำมาใช้เป็นคู่มือในการดำเนินชีวิตในครัวเรือนและการประกอบอาชีพ สู่การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง ครอบครัว และชุมชน เป็นรากฐานอันเข้มแข็งสู่การพัฒนาประเทศชาติต่อไป ” อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จะได้ส่งเสริมความรู้ทางบัญชีให้แก่กลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะผู้ที่รู้ภาษาไทย ในพื้นที่ ได้สามารถเป็นเครือข่ายในการส่งต่อความรู้ไปยังประชาชนที่ยังไม่รู้ภาษาไทย ได้สามารถจดบันทึกบัญชีได้ด้วยตนเอง ในรูปแบบภาษาท้องถิ่น เพื่อสร้างมาตรฐานการบัญชีให้เกิดขึ้นในกลุ่มเป้าหมายให้ใช้บัญชีเป็น  มีภูมิคุ้มกันในการดำเนินชีวิตต่อสภาวการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน.