CMMU ชี้โอกาสทองผู้ประกอบการไทย พร้อมเผย 7 กลยุทธ์เจาะตลาดแรงงานเมียนมา กว่า 2 ล้านคน
อาจารย์บุริม โอทกานนท์ รองคณบดีงานสนับสนุนการศึกษา และอาจารย์ประจำสาขาการตลาดวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กล่าวว่า หลังมีการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน ชาวเมียนมาในประเทศไทยเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยจากองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM)จำนวนประมาณการของชาวเมียนมาทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกในประเทศไทยสูงถึง 2.3 ล้านคนโดยมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 9,000 บาทต่อเดือน ทำให้มีเม็ดเงินจากแรงงานเมียนมาหมุนเวียนในประเทศไทยราว 20,700 ล้านบาท
โดยกลุ่มสินค้าที่เป็นที่ต้องการกลุ่มตลาดดังกล่าวได้แก่ 1. ของใช้ภายในครัวเรือน 2. เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว 3. เครื่องดื่มชูกำลัง 4. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ 5. ทองคำ โดยในแต่ละเดือนแรงงานชาวเมียนมาใช้จ่ายกับข้าวของเครื่องใช้ต่างๆเหล่านี้กว่า 3,000 บาท หรือประมาณ 30% ของรายได้
อาจารย์บุริม กล่าวต่อว่า จากการทำวิจัยกับกลุ่ม ตัวอย่างแรงงานชาวเมียนมา พบว่าปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อพฤติกรรมบริโภคของแรงงานชาวเมียนมาในประเทศไทยคือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วในเมียนมา ส่วนช่องทางการตลาด (MarketingChannel) ที่ต้องมุ่งเน้นเป็นพิเศษคือ การทำการตลาดออนไลน์ (Online Marketing)
ด้านนางสาวชัญญพัชร บุนนาคนักศึกษาระดับปริญญาโท สาขาการตลาดและตัวแทนโครงการวิจัย กล่าวเพิ่มเติมว่าหลังจากการศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการทำวิจัยพบว่า การทำการตลาดกับกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาไม่จำเป็นต้องใช้จำนวนเงินมากมาย แต่ต้องใช้ความเข้าใจและจริงใจ ส่วนอีกสิ่งสำคัญที่อยู่ในใจแรงงานเมียนมาในประเทศไทย คือ “ความกลัว”ในเรื่องต่างๆ อาทิ กลัวตำรวจจับ กลัวถูกรังแก กลัวถูกหลอก กลัวถูกดูถูก จึงนำไปสู่กลยุทธ์ 7 ข้อ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “NOFEARS” เพื่อเจาะตลาดแรงงานชาวเมียนมาอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่
1. N - Network : ทำให้สินค้าหรือบริการเป็นที่รู้จักผ่านเพื่อนฝูง คนรู้จักในหมู่แรงงานเมียนมา 2. O - Open-minded : เปิดใจว่าแรงงานเมียนมาก็เหมือนคนไทย 3. F - Fairness : ให้ความเท่าเทียม มีความยุติธรรม 4. E - Experience : เปิดโอกาสให้ได้ทดลองใช้ และมีกิจกรรมต่างๆที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง 5. A - Awareness : ช่วยลดปัญหาเรื่องการสื่อสาร และสนับสนุนการรับรู้ด้วยการรองรับภาษาเมียนมา 6. R - Relationship : สร้างความสัมพันธ์ที่ดี และสร้างความไว้ใจให้กับกลุ่มเป้าหมาย และ 7. S - Simple : ทำการตลาดด้วยวิธีง่ายๆไม่ซับซ้อน
Photo cover :
Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,156 วันที่ 12 - 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2559