มอดข้าวโพดตัวเดียวสูญ2หมื่น “แม่สอด”โวยระเบียบนำเข้าใหม่

11 พ.ค. 2564 | 02:30 น.

ผู้นำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเมียนมาโวย ข้อกำหนดใหม่กรมวิชาการเกษตรมัดคอ สารฆ่าศัตรูพืชที่กำหนดไม่มีขายในพื้นที่ เจอมอดตัวเดียวต้องทำลายทิ้งหรือตีกลับ ทำค่าใช้จ่ายบานปลายหางพ่วงละ 20,000 บาท 

ผู้นำเข้า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเมียนมา โวย ระเบียบใหม่กรมวิชาการเกษตรมัดคอ สารฆ่าศัตรูพืชที่กำหนดไม่มีขายในพื้นที่ เจอมอดตัวเดียวต้องทำลายทิ้งหรือตีกลับ ทำค่าใช้จ่ายบานปลายหางพ่วงละ 20,000 บาท

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม  2564 ตัวแทนผู้ประกอบการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเมียนมา ด้านจังหวัดเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ได้ไปยื่นหนังสือต่อหัวหน้าด่านตรวจพืช อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อขอผ่อนปรนการตรวจ หรือ วิธีการอื่น ๆ จากกรณีที่ทางกรมวิชาการเกษตร มีหนังสือลงวันที่ 29 มีนาคม 2564 ให้การนำเข้าข้าวโพดจากต่างประเทศ (สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา) เข้ามาในราชอาณาจักรไทย มีข้อกำหนดของกรมวิชาการเกษตรว่า ห้ามมีตัวมอดและศัตรูพืชเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ข้าวโพดที่จะนำเข้ามาต้องผ่านการอบกำจัดมอดจากบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากกรมวิชาการเกษตร ซึ่งมีจำนวน 6 บริษัท หากตรวจเจอมอดหรือศัตรูพืชแม้เพียงตัวเดียว ต้องทำลายทิ้งหรือตีกลับต้นทาง

มอดข้าวโพดตัวเดียวสูญ2หมื่น  “แม่สอด”โวยระเบียบนำเข้าใหม่

มอดข้าวโพดตัวเดียวสูญ2หมื่น  “แม่สอด”โวยระเบียบนำเข้าใหม่

แต่เนื่องจากบริษัทที่กำหนดไว้ไม่มีสาขาและพนักงานในพื้นที่ อ.แม่สอด เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19  ขณะที่ยาที่กำจัดมอดและศัตรูพืชที่ชื่อว่า เมบรอม 100 (Mebromm 100 ) ที่กรมวิชาการเกษตรอนุมัติให้ใช้นั้น ไม่มีจำหน่ายในพื้นที่อำเภอแม่สอด ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถปฏิบัติตามประกาศของกรมวิชาการเกษตรได้ และทางเจ้าหน้าที่ด่านตรวจตรวจพืช ไม่มีทางออกอื่นให้ นอกจากทำลายทิ้งหรือตีกลับต้นทาง 

ส่งผลให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อน ต้องเสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนมากถึง 20,000 บาทต่อ 1 พ่วง ทั้งต้องเผชิญปัญหาเหตุการณ์ไม่สงบ และปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกด้วย ทั้งที่เมื่อปีที่ผ่านมาไม่มีข้อกำหนดดังกล่าว จึงรวมตัวกันยื่นหนังสือขอผ่อนปรนจากกรมวิชาการเกษตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการนำเข้าข้าวโพด 

 

ด้านเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชในพื้นที่แจ้งกลุ่มผู้ประกอบการที่ไปยื่นหนังสือว่า จะนำเรื่องนี้รายงานไปยังกรมวิชาการเกษตร เพราะเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไม่มีอำนาจใด ๆ นอกจากการปฏิบัติหน้าที่ตามข้อกำหนดของกรมวิชาการเกษตร แต่ได้แนะนำให้รวมตัวกันพร้อมกับชิปปิ้งเพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป 

ทางผู้ประกอบการแจ้งว่า ได้รับความเดือดร้อนมาก เนื่องจากการเข้มงวดตรวจรถบรรทุกข้าวโพดที่บริเวณด่านพรมแดนไทย-เมียนมา 2  ของเจ้าหน้าที่ หากพบมอดเพียงตัวเดียวก็ไม่ผ่าน นอกจากนี้ทางผู้ประกอบได้รวมตัวกันเพื่อหาทางออก โดยจะขอให้บริษัทที่ทางกรมวิชาการเกษตรกำหนดไว้ ให้ผู้ประกอบการต้องนำข้าวโพดผ่านการอบตัวมอดจาก 6 บริษัท ก็ไม่ยอมไปบริการถึงพื้นที่ หลังจากมีการร้องขอจากผู้ประกอบการ เนื่องจากปัญหาการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ยิ่งทำให้ผู้ประกอบการไม่มีทางออกใด นอกจากการขอผ่อนปรนเท่านั้น 

หน้า 17 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,677 วันที่ 9 - 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง