“ปริญญ์”เชิญรัฐ-เอกชนสร้างความเข้าใจคลายข้อสงสัยวัคซีนโควิด-19 

07 พ.ค. 2564 | 10:42 น.

“ปริญญ์”เชิญรัฐ-เอกชนจัดคลับเฮ้าส์ สร้างความเข้าใจ คลายข้อสงสัยในวัคซีนโควิด-19 “หมออุดม”ยันยังไม่มีวัคซีนใดที่มีข้อมูลยืนยันทำให้คนเสียชีวิต อยากให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีน

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ เปิดพื้นที่เชิญ นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศบค. และอดีตอธิการบดีม.มหิดล พร้อมด้วย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทย ร่วมพูดคุยกับประชาชนผ่านแอปพลิเคชันคลับเฮ้าส์ ในประเด็น "ความจริงเรื่องวัคซีนโควิด" เพื่อสร้างความเข้าใจและลดความวิตกกังวลก่อนลงทะเบียนหมอพร้อมตลอดเดือนพฤษภาคมนี้ 

นายปริญญ์ กล่าวว่า วัคซีนเป็นตัวช่วยหนึ่งที่จะช่วยให้ชนะโรคโควิด-19 ได้ แต่ปัจจุบันพบว่าหลายคนยังคงมีคำถาม ขาดความเข้าใจ และเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับวัคซีนอยู่ การเชิญตัวแทนจากภาครัฐและเอกชนมาร่วมพูดคุยกันที่คลับเฮ้าส์ในครั้งนี้ เป็นสร้างการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ส่งต่อข้อมูลที่ถูกต้องจากผู้รู้จริงสู่ประชาชน เพื่อทำให้วัคซีนเดินไปหาพี่น้องประชาชนคนไทยได้ และสามารถกลับมาใช้ชิวิตได้ตามปกติสุขในเร็ววัน รวมถึงช่วยบรรเทาปัญหาทั้งทางด้านสาธารณสุข และฟื้นฟูเศรษฐกิจไปพร้อมกัน 

นพ.อุดม คชินทร เปิดเผยว่า ตัวเลขที่เราได้ยินบ่อย ๆ เกี่ยวกับวัคซีนและอาจทำให้เกิดการสับสน มี 2 ประเด็นด้วยกัน คือ ผลในการช่วยป้องกันเชื้อของโรค ซึ่งวัคซีนทุกตัวจะให้ผลใกล้เคียงกันและเพียงพอตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนด (เกิน 50%) และผลของการช่วยลดความเจ็บป่วย โดยทำให้เชื้อลดอาการรุนแรงลงได้เมื่อเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งทุกตัวจะให้ผลใกล้เคียงกันคือ 80 - 100% และปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนใดที่มีข้อมูลยืนยันว่าทำให้คนเสียชีวิต 

ดังนั้น อยากให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง มาลงทะเบียนฉีดวัคซีนกันภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ ไลน์ออฟฟิศเชียลหมอพร้อม โรงพยาบาลที่ท่านรักษาตัวอยู่ และทีมอสม.ในพื้นที่ในแต่ละจังหวัด 

                          “ปริญญ์”เชิญรัฐ-เอกชนสร้างความเข้าใจคลายข้อสงสัยวัคซีนโควิด-19 

ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล กล่าวว่า สาเหตุที่ภาคเอกชนไม่สามารถนำเข้าวัคซีนโควิด-19 เองได้ เป็นเพราะวัคซีนที่เร่งผลิตออกมาตอนนี้เป็นสิ่งที่ต้องใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน (EUA Emergency Use Authority) บริษัทยาต่างชาติจะยังไม่ขายตรงให้เอกชน ต้องดำเนินการแบบ G2G คือให้รัฐบาลเป็นผู้รับซื้อเท่านั้น เพื่อทำหน้าที่รับผิดชอบชีวิตของประชาชน

หอการค้าไทยจึงได้หารือกับนายกรัฐมนตรีเพื่อจัดตั้ง 4 คณะทำงาน ได้แก่ TEAM Distribution and Logistics สนับสนุนการกระจายและฉีดวัคซีน TEAM Communication สนับสนุนด้านการสื่อสารของภาครัฐ TEAM IT Operation สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการลงทะเบียนและลดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ในศูนย์ปฏิบัติการของเอกชน และTEAM Extra Vaccine procurement จัดหาวัคซีนเพิ่มเติม ให้บริษัทเอกชน ที่ต้องการและมีความพร้อม 

                                     “ปริญญ์”เชิญรัฐ-เอกชนสร้างความเข้าใจคลายข้อสงสัยวัคซีนโควิด-19 

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กล่าวเพิ่มว่า วัคซีนที่ผ่านการอนุมัติจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และองค์การเภสัชกรรมได้ ต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพหลายขั้นตอนจากผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นอยากให้มั่นใจว่ามีความปลอดภัย แม้จะมีผลข้างเคียงบ้าง แต่ยังถือว่าน้อย และคุ้มที่จะฉีด เพื่อทำให้สังคมไทยดีขึ้น สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และพร้อมที่จะเปิดประเทศ 

"วัคซีนอาจไม่ใช่เครื่องมือต่อสู้ที่จะทำให้เราชนะโรคโควิด-19 ได้ในทันที แต่สิ่งสำคัญคือตัวเราที่จะมีความคิดที่จะช่วยกันแชร์ข่าวที่ถูกต้อง สร้างองค์ความรู้อย่างเป็นวงกว้าง เพื่อช่วยให้สังคมไม่ตื่นตระหนก ผมเชื่อว่าวัคซีนจะมีเพียงพอสำหรับทุกคนภายในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ประเทศไทยยังมีความหวังอยู่ อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มเสี่ยงอย่าลืมลงทะเบียนหมอพร้อม รักษาสุขภาพอนามัยให้ดี และเตรียมตัวไปฉีดวัคซีน"  

สามารถชมย้อนหลังเต็มได้ทางช่องยูทูป PRINN check in