' สุดารัตน์ ' แนะคุม คลัสเตอร์คลองเตย เร่งฉีดวัคซีน - จ่ายเยียวยา 5,000

05 พ.ค. 2564 | 13:01 น.

' คุณหญิงสุดารัตน์ ' แนะมาตรการควบคุม คลัสเตอร์โควิดคลองเตย ขอรัฐเร่งตรวจและฉีดวัคซีนให้จบใน 15 วัน จ่ายเยียวยาทันทีคนละ 5,000 บาท เพื่อหยุดการเดินทางออกนอกพื้นที่ เสี่ยงแพร่เชื้อต่อ

5 พ.ค. 2564 - คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงการแก้ปัญหา คลัสเตอร์โควิดคลองเตย ว่า ...

ต้อง”เข้าคลุมพื้นที่” เร่งตรวจ
และเร่งฉีดวัคซีนให้จบภายใน 15 วันโดยจ่ายเยียวยาทันทีคนละ 5000 บาทเพื่อไม่ให้คนในชุมชนต้องดิ้นรนออกมาหารายได้ ซึ่งจะทำให้การควบคุมการระบาดยากขึ้นไปอีก และต้องตั้งศูนย์คัดกรองทุกเขตทั้ง 50 เขตในกรุงเทพโดยด่วนเพราะขณะนี้มีการแพร่ระบาดในระดับชุมชนไปทั่วกรุงเทพแล้ว 

สถิติโควิดของประเทศไทย ตั้งแต่ วันที่ 1 พค. 
เพียงแค่ 4 วัน ตาย 100
และป่วยหนักเกินพัน 
หากวัดกับช่วงที่ผ่านมา เพียง 4วันมียอดผู้เสียชีวิต สูงกว่า ตลอดปี 2563 ทั้งปีรวมกัน 

ซึ่งตัวเลขนี้บอกเราว่า สถานการณ์ #โควิด19 ในไทยพัฒนาไปอีกระดับหนึ่งแล้ว
ขณะนี้สถานการณ์ในคลองเตย หลายฝ่ายประเมินว่าหากภาครัฐไม่ทุ่มเทสรรพกำลังอย่างเต็มที่ จะ เป็นคลัสเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ โควิด19 เริ่มระบาดในเมืองไทย
คลองเตย มีชุมชนแออัดหลายสิบชุมชน และมีผู้อยู่อาศัยเป็นหลักแสน 
ถ้ารัฐยังตรวจเชิงรุกวันละ 1000คน
ต้องใช้เวลา100 วัน กว่าจะตรวจครบ 

แต่ที่แย่กว่าคือ การแจกโควต้าแบบจำนวนจำกัดให้แต่ละชุมชนไปตรวจ ซึ่งคนที่ตรวจแล้วก็ต้องกลับไปรวมกับคนที่ยังไม่ได้ตรวจ และอาจเสี่ยงที่จะติดเชื้อภายหลังอีกก็ได้ การจัดการแบบนี้น่าจะไม่เป็นไปตามหลักการของการวางแผนควบคุมตามหลักระบาดวิทยา  

ถ้ายังกำหนดแผนที่สับสนแบบนี้!! จะคุมการระบาดได้ยากมาก และต้องใช้เวลาอีกนาน 
อันตรายทั้งคนใน และคนนอกชุมชน 

จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด กำลังสะท้อนความผิดพลาดของการบริหารจัดการในขณะนี้ และประชาชนกำลังเป็นเหยื่อที่ต้องมารับเคราะห์ 

การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพจะลดจำนวนผู้ติดเชื้อ และช่วยไม่ให้ประชาชนต้องสิ้นเนื้อประดาตัว จากความผิดพลาดของรัฐบาล อย่าปล่อยให้ความล่าช้า ขาดประสิทธิภาพ ทำอันตรายต่อประชาชนและสร้างความหวาดกลัวจนต้องชวนกันย้ายประเทศ

ที่ต้องเร่งแก้ไขในขณะนี้คือ
1) เพิ่มปริมาณการตรวจเชิงรุก จัดการตามหลักระบาดวิทยาให้จบเป็นรายชุมชน 
อย่างให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์
2) ประกาศควบคุมพื้นที่ 15 วันโดยจ่ายค่าเยียวยาทันที คนละ 5,000 บาท ให้คนหยุดอยู่บ้าน เพื่อให้การตรวจเชื้อ และการเข้าคุมการระบาดเป็นไปได้ง่าย และรวดเร็ว สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดได้ทั้งภายใน และภายนอกชุมชน
3) เพิ่มปริมาณการฉีดวัคซีนในแต่ละวัน เป็นขั้นบันได จนในที่สุดรัฐต้องมีขีดความสามารถ ในการฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ 
ชุมชนแออัดคลองเตย เสร็จสิ้นอย่างช้าที่สุดภายใน 2 สัปดาห์
และรัฐบาลควรดำเนินการเช่นนี้ กับทุกชุมชนแออัด เพราะประชาชนที่อาศัยอยู่ ไม่สามารถที่จะรักษา Social Distancing ได้ตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และแต่ละชุมชนจะมีบุคลากร ผู้ใช้แรงงานพนักงานส่งของ พนักงานขับรถ ที่ต้องหาเช้ากินค่ำและเดินทางไปมาเพื่อให้บริการกับพี่น้องประชาชน ทุกเขตในกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งในขณะนี้ แต่ละชุมชนแออัดมีการแพร่ระบาดแทบจะทุกเขตทั่วทั้ง กทม.แล้ว 

จึงขอวิงวอนให้รัฐเร่งดำเนินการตามที่ดิฉันได้เสนอแนะ ไปตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน  63 ตั้งแต่การระบาดรอบแรก
ให้มีการระดม”ตรวจเชิงรุกในทุกชุมชน” ที่มีผู้ติดเชื้อแล้ว 

ซึ่งดิฉันก็ได้ใช้วิธีการเช่นนี้ จนสามารถควบคุมการระบาดของโรคไข้หวัดนกได้ในเวลาสั้นมาก เพียงไม่กี่เดือน
เพื่อควบคุมการระบาดในกรุงเทพให้ยุติได้โดยรวดเร็ว ต้องเร่ง”ตั้งศูนย์คัดกรอง”ทั้ง50 เขตในกรุงเทพ เพื่อเร่ง”ตรวจเชิงรุก” แยกผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อ เข้าระบบ 

ไม่มีอาการไปเตียงเขียวเฝ้าอาการ 14 วัน  มีอาการน้อยไปเตียงเหลืองเข้ารักษาในรพ. อาการหนักไปเตียงแดง ICU 
ทุกนาที มีค่าสำหรับชีวิตของประชาชน โปรดอย่ารอช้าค่ะ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง