ซิสโก้พลิกโฉมโครงสร้างพื้นฐานเน็ตรับอนาคต

27 เม.ย. 2564 | 11:30 น.

ซิสโก้ประกาศกลยุทธ์ในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารและบริษัทที่ให้บริการคลาวด์ทั่วโลกในการเชื่อมต่อ คุ้มครอง และสร้างระบบอัตโนมัติสำหรับเครือข่ายขององค์กร เพื่อให้บริการอินเตอร์เน็ตที่แข็งแกร่ง เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับทุกคนในทุกๆ ที่ โดยไม่คำนึงถึงข้อจำกัดทางด้านภูมิศาสตร์

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น ประชาชน องค์กรธุรกิจ ภาครัฐ และชุมชนต่างๆ จำเป็นต้องพึ่งพาระบบเชื่อมต่อเพื่อรองรับการดำเนินกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง  จากเดิมที่เคยเป็นปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ในตอนนี้อินเตอร์เน็ตได้ทำหน้าที่เป็นเสมือนห่วงชูชีพที่ช่วยเหลือผู้คนในสถานการณ์ที่ยากลำบาก โดยรองรับการเชื่อมต่อกับข้อมูลและการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน  การประชุมผ่านวิดีโอ (Video Conferencing) มีการใช้งานเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก เพราะประชาชนจำเป็นต้องทำงานจากที่บ้านหรือเรียนหนังสือทางออนไลน์  นอกจากนี้ยังมีการใช้บริการทางการแพทย์ผ่านการเชื่อมต่อระยะไกล วิดีโอสตรีมมิ่ง การเล่นเกมออนไลน์ และอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้แทรฟฟิกอินเตอร์เน็ตพุ่งสูงขึ้นอย่างฉับพลันราว 25-45 เปอร์เซ็นต์ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก 

ตอนนี้ระบบเครือข่ายยังสามารถรองรับการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ซิสโก้คาดการณ์ว่าปริมาณแทรฟฟิกจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างมากเมื่อเราก้าวเข้าสู่ยุค 5G ซึ่งคาดว่าจะมีอุปกรณ์เชื่อมต่อราว 29.3 พันล้านเครื่องในปี 2566   สถาปัตยกรรมอินเตอร์เน็ตจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการใช้งานรูปแบบใหม่ๆ  อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมีประชากรกว่า 3 พันล้านคนที่ยังไม่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ต และปัญหาความเหลื่อมล้ำทางด้านเทคโนโลยี (Digital Divide) ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีผู้คนจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูล ความรู้ และโอกาส ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องสร้างระบบเครือข่ายที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขปัญหาท้าทายดังกล่าว

นายโจนาธาน เดวิดสัน รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของซิสโก้ กล่าวว่า “ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซิสโก้ได้ศึกษาวิจัยและลงทุนในการพัฒนานวัตกรรมในส่วนนี้ โดยมุ่งเน้นการช่วยให้ลูกค้านำเสนอบริการอินเตอร์เน็ตที่ดีที่สุด ควบคู่ไปกับการเพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่าย และป้องกันความเสี่ยง  เราช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเกี่ยวกับระบบเครือข่ายได้อย่างถูกต้องเหมาะสมในตอนนี้ เพื่อรองรับการเชื่อมต่อผู้คน สถานที่ และสิ่งต่างๆ เพิ่มมากขึ้นในอนาคต  และในอีก 10 ปีข้างหน้า เมื่อเรามองย้อนกลับมา เราก็จะรู้สึกยินดีที่เราได้ดำเนินการอย่างถูกต้องแล้วในการพัฒนาปรับปรุงระบบอินเตอร์เน็ตสำหรับอนาคต

ซิสโก้พลิกโฉมโครงสร้างพื้นฐานเน็ตรับอนาคต

เปลี่ยนแปลงโครงสร้างอินเตอร์เน็ตเพื่อลดค่าใช้จ่าย

การสร้างระบบเครือข่ายเพื่อรองรับการขยายอินเตอร์เน็ตไปสู่พื้นที่ต่างๆ เพิ่มเติมนับเป็นงานที่ท้าทายสำหรับผู้ให้บริการเครือข่าย  ด้วยเหตุนี้ ซิสโก้จึงได้ออกแบบ Converged SDN Transport ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถผนวกรวมหลายๆ เครือข่ายเข้าด้วยกันบนโครงสร้างพื้นฐานร่วมที่ปลอดภัย ประหยัดค่าใช้จ่าย และมีขนาดที่ใหญ่มาก

เพื่อลดความซับซ้อนของโครงสร้างอินเตอร์เน็ต ซิสโก้จึงได้เปิดตัวโซลูชั่น Routed Optical Networking ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยุบเครือข่าย IP และเครือข่ายออปติก  ด้วยออปติกที่เชื่อมต่อได้ง่ายจาก Acacia รวมถึงความก้าวหน้าทางด้าน Segment Routing และ Ethernet VPN และเทคโนโลยีใหม่ Cisco Crosswork Cloud ผู้ให้บริการจะสามารถสร้างเครือข่ายที่มีขนาดเหมาะสม เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ จัดการดูแลได้อย่างง่ายดาย สามารถรองรับแทรฟฟิกจำนวนมากที่คาดว่าจะมาพร้อมกับเครือข่าย 5G

นวัตกรรมใหม่ขับเคลื่อนอินเตอร์เน็ตสำหรับอนาคต

ซิสโก้ร่วมมือกับผู้ให้บริการด้านการสื่อสารและบริษัทที่ให้บริการคลาวด์ อย่างเช่น Altibox, AWS, Facebook, Google Cloud, Microsoft Azure, Deutsche Telecom, Rakuten, SFR, Telenor, Telia Carrier, Telstra, Vodafone และอื่นๆ ในการออกแบบส่วนประกอบของ ‘อินเตอร์เน็ตสำหรับอนาคต’ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความคล่องตัว และประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

•             Cisco Silicon One

ซิสโก้ได้เปิดตัวสถาปัตยกรรมซิลิคอนสำหรับระบบเครือข่าย Silicon One™ เมื่อปี 2562 เพื่อนำเสนอสถาปัตยกรรมซิลิคอนแบบครบวงจรที่ตั้งค่าได้ ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และมอบความเร็วและความจุที่เหนือกว่าสำหรับยุค 5G  ในช่วงเวลาเพียง 15 เดือน ซิสโก้ได้ขยายแพลตฟอร์ม Cisco Silicon One จากเดิมที่เป็นโซลูชั่นที่มุ่งเน้นระบบเราติ้ง ไปสู่โซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดระบบสวิตชิ่งแบบ Web Scale โดยนำเสนอชิปเครือข่าย (อุปกรณ์) 10 รุ่น ตั้งแต่ 3.2 Tbps ไปจนถึง 25.6 Tbps และนับเป็นซิลิคอนสำหรับระบบเราติ้งและสวิตชิ่งแบบตั้งโปรแกรมได้ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในตลาด

•             การจัดการลูกค้า

ซิสโก้ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Cisco Cloud Native Broadband Network Gateway สำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคม (เครือข่ายพื้นฐาน) โดยอยู่ภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์บรอดแบนด์เราเตอร์แบบคลาวด์เนทีฟสำหรับเครือข่ายเคเบิลและมือถือ  นับเป็นการปูทางสู่การผนวกรวมเข้ากับโซลูชั่นการจัดการลูกค้า (Subscriber Management) อย่างครบวงจร ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพ ขณะที่ผู้ให้บริการจะสามารถนำเสนอบริการที่รองรับทุกการเข้าถึงอย่างแท้จริง ไม่ว่าลูกค้าจะใช้บริการดังกล่าวจากที่ใดก็ตาม

•             การพัฒนาเครือข่ายส่วนการเข้าถึง, การรวม, Edge และ Core Networks เพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

o            ผลิตภัณฑ์เราเตอร์รุ่นล่าสุดในตระกูล 8000 ของซิสโก้ประกอบด้วยชิป Cisco Silicon One Q200 series ซึ่งมอบความจุสูงสุด 14.4 Tbps รองรับสวิตช์ 100G Web Scale จำนวน 32 และ 64 เครื่อง

o            เปิดตัวไลน์การ์ดและแชสซีรุ่นใหม่ที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพสำหรับ Cisco Aggregated Service Router (ASR) 9000 series และเราเตอร์ Network Convergence System (NCS) 500 และ 5500 series ช่วยเพิ่มกำลังความจุ ควบคู่ไปกับการประหยัดเงินทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

o            ฟีเจอร์ใหม่ Crosswork Network Controller (CNC) ช่วยให้ลูกค้าควบคุมและใช้งานโซลูชั่น Cisco Routed Optical Networking ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

•             Cisco Crosswork Cloud

Crosswork Cloud นำเสนอแอพพลิเคชั่นใหม่ที่มีชื่อว่า Traffic Analysis ซึ่งรองรับการตรวจสอบอย่างครอบคลุมสำหรับจุดเชื่อมต่อ Peering บนเครือข่าย และ Traffic Analysis จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกดังกล่าวเพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสมสำหรับการปรับปรุงแทรฟฟิกที่ส่วนขอบ (Edge) ของเครือข่าย และป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประสบการณ์การใช้งานของลูกค้า

•             Cisco Business Critical Services

บริการ Cisco Business Critical Services ช่วยให้ลูกค้าที่ต้องการเปลี่ยนไปใช้โซลูชั่น Routed Optical Networking และ Cloud Native Broadband ของซิสโก้ สามารถดำเนินการปรับเปลี่ยนได้อย่างราบรื่น  บริการ Business Critical Services ครอบคลุมการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการออกแบบสถาปัตยกรรมเครือข่าย และการวางแผนติดตั้ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการโยกย้ายระบบและลดความเสี่ยง  ตัวเลือกใหม่ๆ ภายในบริการ Specialized Expertise Scrum Services และ Expert-as-a-Service ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ และเพิ่มความยืดหยุ่นในการเลือกชุดทักษะที่จะช่วยขับเคลื่อนการปรับเปลี่ยนระบบเครือข่าย