กระหึ่ม"พิภู-ชาธิป"ชิงประธานหอฯสมุทรสาคร 

24 เม.ย. 2564 | 10:14 น.

กระหึ่่ม"พิภู-ชาธิป" ฟอร์มทีมชิง"ประธานหอฯสมุทรสาคร"คนใหม่ กลางวงประชุมใหญ่ 27 เม.ย.นี้  หลังเกิดกระแสต่าง"รุ่นเก่า-รุ่นใหม่"ในหมู่สมาชิกชั้นนำ จับตาการใช้ระเบียบ-ข้อบังคับหอการค้าเป็นประเด็นต่อสู้ 

กระหึ่่ม"พิภู-ชาธิป" ฟอร์มทีมชิง"ประธานหอฯสมุทรสาคร"คนใหม่ กลางวงประชุมใหญ่ 27 เม.ย.นี้  หลังเกิดกระแสต่าง"รุ่นเก่า-รุ่นใหม่"ในหมู่สมาชิกชั้นนำ จับตาการใช้ระเบียบ-ข้อบังคับหอการค้าเป็นประเด็นต่อสู้ 


คณะกรรมการหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร นัดจัดการประชุมใหญ่สมาชิกสามัญประจำปีฯ  ขึ้นในวันที่  27  เมษายน  2564  เวลา  13.30 น.  ณ  ภัตตาคารนิวรสทิพย์ และห้องประชุมตลาดทะเลไทย  โดยมีวาระสำคัญเพื่อเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ และเลือกประธานหอการค้าคนใหม่  ต่อจากนางอำไพ  หาญไกรวิไลย์ ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาครคนปัจจุบัน ที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง 
    ที่ผ่านมาแทบทุกสมัยการเลือกกรรมการและประธานกรรมการหอการค้าชุดใหม่ มักเป็นการฟอร์มทีมกันจากคณะกรรมการชุดเดิมที่บริหารอยู่ เพื่อผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมาบริหารองค์กร แต่ครั้งนี้มีกระแสข่าวว่า การประชุมใหญ่สมาชิกสามัญประจำปีนี้ ซึ่งจะมีการเลือกกรรมการบริหารและประธานกรรมการหอการค้าคนใหม่ อาจเกิดคลื่นใต้น้ำ หรือการฟอร์มทีมแข่งขันกันเพื่อให้ได้รับเลือกจากสมาชิก 
เนื่องจากเวลานี้ในหมู่สมาชิกชั้นนำของหอการค้าสมุทรสาคร มีความคิดแตกเป็น 2 กลุ่ม ที่คาดว่าต่างฝ่ายจะฟอร์มทีมเพื่อเสนอเข้ารับเลือกเป็นกรรมการหอฯชุดใหม่ ประกอบด้วย

1.กลุ่มนายพิภู สุโชคชัยกุล ซึ่งเป็นอดีตรองประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาครหลายสมัย รวมทั้งเป็นอดีตรองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และอดีตประธานสภาเทศบาลตำบลแคราย ล่าสุดเป็นประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสมุรสาคร และ

2.กลุ่มนายชาธิป ตั้งกุลไพศาล รองประธานหอการค้าสมุทรสาคร คนที่ 1 ชุดปัจจุบัน และเป็นอดีตประธานกลุ่ม YEC ที่รวมกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของจังหวัดสมุทรสาคร 

นายพิภู  สุโชคชัยกุล เปิดเผยว่า พร้อมจะไปช่วยงานของหอการค้าฯ ตลอดระยะ  1-2 วาระ  โดยตนจะไปร่วมประชุมใหญ่ฯ ในฐานะสมาชิก  ซึ่งหากมีผู้เสนอความคิดเห็นและมีผู้เสนอให้ดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าฯ  ตนเองก็ยินดีรับ  และจะพยายามสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้เกิดขึ้น  ซึ่งในฐานะสมาชิกอาวุโส  ตนก็น่าจะเป็นที่ยอมรับได้ของทุกฝ่าย  โดยพร้อมจะเดินตามกฎระเบียบของหอการค้าไทย  และยึดปณิธานหลักเพื่อให้เกิดความร่วมมือทั้งกับภาครัฐ  เอกชน  รวมถึงภาคประชาสังคมทุกฝ่าย  โดยมีแนวทางที่หอการค้าจะต้องตั้งรับการเสริมกำลังด้านเศรษฐกิจ ในภาวะที่จังหวัดสมุทรสาครกำลังเผชิญวิกฤติจากโรคโควิด-19  อยู่ในขณะนี้
นายพิภู สุโชคชัยกุล อดีตรองประธานหอการค้าสมุทรสาคร

นายชาธิป ตั้งกุลไพศาล รองประธานหอฯสมุทรสาคร และอดีตประธานชมรม YEC สมุทรสาคร

ด้านนายชาธิป  ตั้งกุลไพศาล  กล่าวว่า  การเลือกประธานหอการค้าครั้งนี้  จะเริ่มจากการให้สมาชิกเลือกหรือรับรองกรรมการบริหารฯ  ไม่น้อยกว่า 21  คน  แต่ไม่เกิน  35  คน    จากนั้นกรรมการบริหารที่ได้รับเลือกจะไปประชุมเลือกสรรหาตัวประธานกรรมการหอการค้าฯอีกชั้นหนึ่ง  ไม่ใช่ให้สมาชิกมาโหวตเลือกประธานฯ โดยตรง  ซึ่งทีมคณะกรรมการที่เตรียมไว้ให้สมาชิกรับรอง จะมีกรรมการเก่าอยู่ประมาณ 90%  และมีกรรมการใหม่อยู่ประมาณ 10%   

เนื่องจากระเบียบการควบคุมโรคติดต่อของจังหวัด กำหนดให้การจัดประชุมได้ไม่เกิน 50 คน การจัดประชุมใหญ่สมาชิกสามัญประจำปีคราวนี้ จึงจัดแยกเป็น  2  แห่งคือ  ที่ภัตตาคารนิวรสทิพย์ และที่ห้องประชุมตลาดทะเลไทย  รวมสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม  100  คน  โดยจะมีการส่งสัญญาณถ่ายทอดการประชุมเชื่อมระหว่าง 2  แห่งนี้  ส่วนสมาชิกที่เกินจาก  100 คน  ก็จะให้ทำการประชุมและร่วมโหวตรับรองมาทางระบบออนไลน์  

นายชาธิป  กล่าวอีกว่า  ที่ผ่านมาตนเองได้ทำงานด้านยุทธศาสตร์กับทางจังหวัดสมุทรสาคร  และได้ทำกิจกรรมด้านต่าง ๆ กับภาครัฐ  ภาคเอกชน  ภาคประชาสังคม  โดยประสบการณ์การทำงานจึงมีความพร้อม  และวัฒนธรรมของหอการค้าทั่วประเทศที่ถือปฏิบัติกันมาก็คือ  ผู้ที่ทำหน้าที่รองประธานฯ คนที่ 1  ก็จะมีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้ามารับตำแหน่งประธานหอการค้าคนต่อไป   ทั้งจากการที่ตนได้เข้าไปเป็นกรรมการของทางจังหวัดฯ  เพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  ก็ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ร่วมกับทางสภาอุตสาหกรรมฯ  ซึ่งต่อไปทั้งหอการค้าฯ และสภาอุตสาหกรรมฯ จะทำงานเป็นปึกแผ่นในนามของภาคเอกชนมากขึ้น  

“โดยแผนที่ทางภาคเอกชน  ได้เตรียมไว้รับมือด้านเศรษฐกิจในสถานการณ์โรคโควิด-19  ครั้งนี้  ได้แบ่งออกเป็น  3  ระยะคือ  1.ระยะฟื้นฟู  2.ระยะเยียวยา  3.ระยะเติบโต   โดยจะเน้นไปที่กลุ่มเกษตรกร  SME และ OTOP  อันเป็นฐานรากของจังหวัดฯ  เป็นหลัก  ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่ก็คงขับเคลื่อนในด้านสนับสนุนปัจจัยพื้นฐานของจังหวัด  ที่จะเอื้อต่อสภาพธุรกิจและสภาพการประกอบกิจการของผู้ประกอบการรายใหญ่"
 

แหล่งข่าวจากหอการค้าจังหวัดสมุทรสาครเล่าว่า เวลานี้ในหอการค้าสมุทรสาครแตกเป็นกลุ่มรุ่นเก่า-รุ่นใหม่ ทั้งที่กำลังเผชิญความท้าทายจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่ต้องร่วมใจกันฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างหนัก จึงต้องการผู้นำที่มีวุฒิภาวะ มีวัยวุฒิ มีทักษะทางธุรกิจการค้า เพื่อใช้ข้อมูล-ความรู้และประสบการณ์  ในการกอบกู้เศรษฐกิจของจังหวัดสมุทรสาคร  ให้พ้นวิกฤติจากโรคโควิด 19  โดยเร็ว  
อีกทั้งคณะกรรมการหอการค้าฯ  จะต้องทำหน้าที่แทนนิติบุคคล จึงต้องทำงานภายใต้กฎระเบียบให้ถูกต้อง ทั้งในฝ่ายงานตามโครงสร้างของหอการค้าจังหวัด หรือโครงการภายใต้กำกับดูแล เช่น โครงการชมรมผู้ประกอบการรุ่นใหม่  (YEC)  ซึ่งมีระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ  ตามที่กำหนดไว้  เช่น  การเปิดบัญชีเงินฝากต้องใช้ชื่อบัญชีว่า  “หอการค้าจังหวัดสมุทรสาครเพื่อกิจการ YEC" และการเลือกคณะกรรมการ YEC  ต้องทำตามข้อบังคับของหอการค้าฯ  ซึ่งจะต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่า  21  คน  ต้องรายงานกิจกรรมในทุกเดือน  เพื่อขออนุมัติและขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการหอการค้าฯ  ทุกครั้ง  ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้มีจิตสำนึกปราศจากการคอรัปชั่น  ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของหอการค้าไทย  โดยเฉพาะในยุคเศรษฐกิจวิกฤติจากโรคโควิด-19  ยิ่งจำเป็นที่ต้องมีผู้นำที่มีทักษะในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง  และจำเป็นต้องตรวจสอบการดำเนินงานที่ผ่านมา ว่าเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับฯ หรือไม่