วิจัยเพิ่มมูลค่า “เปลือก-น้ำเชื่อม”มะม่วงเบา

08 ก.พ. 2564 | 04:30 น.

นักวิจ้ยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เจ๋ง ต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มวัสดุเหลือใช้มะม่วงเบา นำน้ำเชื่อม-เปลือกมะม่วงมาทำผลิตภัณฑ์ใหม่ ขยายผลวิจัยสารแมงจิเฟอรินในเปลือกมะม่วงต่อ

นักวิจ้ย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เจ๋ง ต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มวัสดุเหลือใช้มะม่วงเบา นำน้ำเชื่อม-เปลือกมะม่วงมาทำผลิตภัณฑ์ใหม่ ขยายผลวิจัยสารแมงจิเฟอรินในเปลือกมะม่วงต่อ

วิจัยเพิ่มมูลค่า  “เปลือก-น้ำเชื่อม”มะม่วงเบา

ผศ.ดร.ปุณณาณี สัมภวะผล รองผู้อำนวยการองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและนวัตกรรมอาหาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(ม.อ.) เปิดเผยว่า จังหวัดสงขลาเป็นแหล่งผลิตมะม่วงเบาแช่อิ่มจำนวนมาก จึงรวมกับศูนย์ประสานงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภูมิภาคภาคใต้ สำรวจพบว่า มีวัสดุเหลือใช้ในกระบวนการผลิต คือ นํ้าเชื่อม มะม่วงเบาไม่ได้ขนาดหรือที่สุกเกินไป สามารถนำมาวิจัยเพื่อทำประโยชน์ ภายใต้การสนับสนุนจากสถาบันวิจัยและนวัตกรรมอาหาร และสำนักวิจัยและพัฒนา ม.อ. ตั้งแต่ปี 2561 

จากการศึกษาได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ เครื่องดื่มไซเดอร์มะม่วงเบาไร้แอลกอฮอล์ ไวน์ ไวน์เข้มข้นไร้แอลกอฮอล์ นํ้าส้มสายชู และซอร์เบท์มะม่วงเบาแช่อิ่ม หรือ ไอศกรีมที่ไม่มีส่วนผสมของนม อีกทั้งยังได้เข้าอบรมเกี่ยวกับการทำธุรกิจ กับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และได้ทุนมาดำเนินงานวิจัยเชิงพาณิชย์ จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาด และมีผู้ประกอบการสนใจเข้ารับการถ่ายทอด

นอกจากนี้ระหว่างวิจัยพบว่า เปลือกมะม่วงมีสารแมงจิเฟอริน ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย ปกติจะสกัดออกมาได้ยากและน้อย จึงได้นำเปลือกมะม่วงมาหมักร่วมจนได้สารแมงจิเฟอรินออกมากับนํ้า ได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม รวมทั้งเป็นสารตั้งต้นของเครื่องสำอางจากวัสดุธรรมชาติ  วิจัยเพิ่มมูลค่า  “เปลือก-น้ำเชื่อม”มะม่วงเบา

วิจัยเพิ่มมูลค่า  “เปลือก-น้ำเชื่อม”มะม่วงเบา

ผศ.ดร.ปุณณาณี กล่าวต่ออีกว่า สารแมงจิเฟอรินมีมูลค่าทางการตลาดสูง สามารถต่อยอดเป็นอาหาร เครื่องสำอาง และอื่นๆ ขณะนี้ได้ร่วมวิจัยกับอาจารย์จากสถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยแม่โจ้  โดยการนำเปลือกและใบของมะม่วงนํ้าดอกไม้ และมะม่วงมหาชนกที่เหลือทิ้งจำนวนมาก มาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อไป 

หน้า 17 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,651 วันที่ 7 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564