สธ.เคาะฉีดวัคซีนโควิดกลุ่มเสียง“18 ปีขึ้น-ผู้สูงอายุ” เว้นเด็ก-คนท้อง 

15 ม.ค. 2564 | 11:09 น.

สธ.เคาะให้วัคซีนโควิด 2 ระยะ ประเดิม “ก.พ.-เม.ย.”ช่วงแรก ให้ลงทะเบียนรายชื่อยึดหลักสมัครใจไม่บังคับ  2 กลุ่มได้รับ “กลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงอายุ 18 ปีขึ้นไป-ผู้สูงอายุรวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว” เว้นเด็กและคนท้อง 


วันนี้ (15 ม.ค.63) นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณะสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ประชุมอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นครั้งแรก


ภายหลังการประชุม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า  การประชุมนัดแรก มีการกำหนดแนวทางการฉีดวัคซีน โดยเห็นชอบแผนการเตรียมความพร้อมการฉีดวัคซีน โดยตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุดเพื่อศึกษาด้านวิชาการศึกษาผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น


ทั้งนี้ การให้วัคซีน จะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ 


ระยะแรกเริ่มตั้งแต่ กุมภาพันธ์- เมษายน 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่วัคซีนมีจำนวนจำกัด 


 ส่วนระยะที่ 2 ที่จะมีวัคซีนเพิ่มมากขึ้น โดยการฉีดจะให้ประชาชนลงทะเบียนรายชื่อยึดหลักความสมัครใจไม่บังคับ 

 


สำหรับกลุ่มที่จะได้รับวัคซีนก่อน จะต้องเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งมี 2 กลุ่ม  คือ 


1.กลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป 


และ 2.กลุ่มผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว 


โดยจะไม่มีการฉีดให้เด็กและคนท้อง 


ส่วนผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน จะมีการตั้งคณะกรรมการที่เชี่ยวชาญขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ หลังฉีดวัคซีนไปแล้วทางกระทรวงสาธารณะสุขจะติดตามผลอย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพื่อดูผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น  ซึ่งในต่างประเทศเคยมีการติดตามผลข้างเคียงจากผู้ที่ได้รับวัคซีน พบว่ามีน้อยมาก เช่นในแคนาดา พบแค่ 9 ในล้าน หรือ 10 ในล้านเท่านั้น