“อยุธยา” ติดโควิดเพิ่ม 4 ราย โยงสนามไก่ชน (มีคลิป)

05 ม.ค. 2564 | 06:53 น.

ผู้ว่าฯ อยุธยา แถลง พบผู้ติด "โควิด-19" รายใหม่ 4 ราย มีประวัติเดินทางไปสนามไก่ชนป่าโมกอินเตอร์ เร่งส่งทีมแพทย์ตรวจค้นหาเชื้อเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงตลาดพะยอม และ ต.สามเรือน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคทันที

“อยุธยา” ติดโควิดเพิ่ม 4 ราย โยงสนามไก่ชน (มีคลิป)

 

วันที่ 5 มกราคม 2564 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมอโยธยา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  นายภานุ  แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมแถลงข่าวกรณีการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 4 ราย โดย นายภานุ  แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมสะสม 12 ราย ในวันนี้ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 4 ราย เป็นรายที่ 9, 10, 11 และ 12 ทั้ง 4 รายเป็นเพศชาย มีประวัติเป็นผู้เดินทางไปสนามไก่ชนป่าโมกอินเตอร์ ซึ่งได้นำเข้ารับการรักษาตัวในหอผู้ป่วยแยกโรค (Cohort Ward) โรงพยาบาลแยกโรค อำเภอนครหลวง และอำเภอพระนครศรีอยุธยาไว้แล้ว

 

ขณะนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขอำเภอที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ควบคุมโรคอย่างเร่งด่วนและสอบสวน Timeline เพื่อเผยแพรในโอกาสต่อไป ซึ่งใน 2 ราย มีประวัติเล่นพนันในสนามชนไก่ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงขอแจ้งประชาชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่เดินทางไป สนามชนไก่ สนามประลองไก่ ทุกแห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 20 ธ.ค. 63 - 3 ม.ค. 64 รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อขอรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ณ โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที โดยขอให้อย่าปิดบังความจริง เพื่อเป็นการรับผิดชอบต่อตนเอง คนที่รัก และสังคม หรือหากมีข้อมูลว่าญาติพี่น้อง เพื่อน คนใกล้ชิด มีพฤติกรรมเดินทางไปในที่เสี่ยง ขอให้ช่วยบอกให้รีบไปตรวจโรคจะเป็นประโยชน์ในการควบคุมโรคได้อย่างยิ่ง

 

 

สำหรับมาตรการเร่งด่วน ได้ออกคำสั่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 1/2564 เพื่อป้องกันวิกฤตการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ฉบันที่ 20) จำนวน 5 มาตรการ ได้แก่ ห้ามใช้อาคารหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค จำนวน 12 ประเภท สถานที่ กิจการ หรือกิจกรรม ที่เปิดได้ภายใต้เงื่อนไขที่จังหวัดกำหนดขึ้น โดยสามารถดาวโหลดขั้นตอนการปฏิบัติได้ที่ QR-Code การควบคุมการเดินทางของบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือพื้นที่ควบคุม โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ มาตรการสำหรับข้าราชการ/เจ้าหน้าที่ของรัฐ มาตรการสำหรับประชาชน และมาตรการสำหรับภาคเอกชน และสถานประกอบการ โดยให้ส่งผลกระทบกับความเป็นอยู่ของประชาชนให้น้อยที่สุด พร้อมนี้ได้สั่งการให้สาธารณสุขตรวจค้นหาเชื้อโควิดเชิงรุกในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นการตีกรอบไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้าง นอกจากนี้ ยังให้ทุกหน่วยงานคงมาตรการสำคัญ อาทิ  การสวมหน้ากากอนามัยออกนอกเคหะสถาน หากไม่สวมใส่จะมีโทษปรับ และให้ดำเนินมาตรการตาม ศบค.กลาง กำหนดทุกมาตรการ

 

ด้าน นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากการเริ่มตรวจค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ เนื่องจากพบผู้ป่วยโควิด-19 ในรอบแรก ที่อยู่ใน 8 รายแรก ตรวจกว่า 2,400 เคส เราไปหาผู้ที่สัมผัสทุกราย ผลตรวจออกแล้วไม่พบผลผู้ติดเชื้อทั้งหมด ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน จากความร่วมมือของโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะดำเนินการตรวจค้นหาเชิงรุกรอบที่ 2 โดยสามารถไปตรวจได้และไม่เสียค่าใช้จ่าย ในวันที่ 5-6 มกราคมนี้ ในพื้นที่ ตลาดพยอม มีไทม์ไลน์ของแม่ค้าที่ปทุมธานีมาขายของ อีกที่หนึ่งคืออาคารหอพักที่ ต.สามเรือน อ.บางปะอิน เป็นกลุ่มที่เดินทางมาจากบ่อนไก่จังหวัดใกล้เคียงเรา ตอนนี้เราหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้กว่า 80 ราย ไปตรวจแล้วยังไม่พบผู้ติดเชื้อ ซึ่งจะมีการตรวจซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันผลที่แน่นอน สำหรับผู้ที่พบอีก 4 ราย เราก็จะจัดเชิงรุกให้กับพี่น้องประชาชนได้มีความสบายใจ สัปดาห์นี้จะออกไปทุกพื้นที่ที่ได้รับรายงาน ช่วงที่รอผลตรวจขอให้สวมใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ หากผลออกแล้วเจ้าหน้าที่จะประสานการปฏบัติให้ทราบโดยใกล้ชิด