อุดรฯเข้มห้าม"รวมกลุ่ม-ย้ายแรงงานต่างด้าว"     

26 ธ.ค. 2563 | 05:45 น.

อุดรฯออกคำสั่ง2ฉบับรวดคุมโควิด-19 ห้ามจัดกิจกรรมที่เป็นการรวมคนจำนวนมาก เบรกเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้า-ออกพื้นที่จังหวัด

ผู้ว่าฯอุดรธานีออกคำสั่ง2ฉบับรวดคุมโควิด-19 ห้ามจัดกิจกรรมที่เป็นการรวมคนจำนวนมาก เบรกเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้า-ออกพื้นที่จังหวัด 

    

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดอุดรธานี โดยนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้ลงนามในประกาศคำสั่งของจังหวัดอุดรธานี จำนวน 2 ฉบับ เพื่อเป็นการควบคุม ป้องกัน การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) และห้ามการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้า-ออก พื้นที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2563  ตามมติของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ที่มีการประขุมวางแนวทางมาตรการกราณีต่าง ๆ เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2563  มีรายละเอียด ดังนี้
  ขอบคุณเฟซบุกสำนักงานประชาสัมพันธ์ อุดรธานี              

ประกาศจังหวัดอุดรธานี ฉบับที่ 13/2563 เรื่องการปิดสานที่ การห้าม หรือข้อจำกัดการดำเนินการ หรือการทำกิจกรรมบางอย่าง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) ระบุ ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19)ในจังหวัดอุดรธานี ยังคงมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดในวงกว้าง ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ช่วงเทศกาลคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ 2564 ซึ่งจะมีประชาชนรวมกลุ่มจัดกิจกรรเฉลิมฉลองเป็นจำนวนมาก อาจเกิดความแออัด และอาจจะก่อให้เกิดการติดต่อและการการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโดยง่าย 
    
ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัศโคโรนา 2019 (โควิค-19) จังหวัดอุดรธานี(ศคก.อด.) พิจารณาแล้ว เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ 2564 จึงให้งดกิจกรรมดังต่อไปนี้     
  

อุดรฯเข้มห้าม"รวมกลุ่ม-ย้ายแรงงานต่างด้าว"       

1.งดการจัดกิจกรรมที่มีการการรวมตัวของคนจำนวนมากแออัด เช่น กิจกรรมเคาท์ดาวน์ กิจกรรมทางศาสนา กิจกรรมตามประเพณี ฯลฯ และในกรณีการจัดคอนเสิร์ต หรือการแสดงในสถานที่ที่มิใช่สถานบริการ หรือสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ให้ถือปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ที่ มท.0307.3/ว6119  ลงวันที่ 12 ตุลาคม 2563 เกี่ยวกับเอกสารข้อปฏิบัติการจัดคอนเสิร์ต หรือการแสดง ในสถานที่ที่มิใช่สถานบริการ หรือสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ในสถานการณ์การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) 
    

2.ห้ามผู้ใดจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมประชุมกัน หรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้ง่าย เช่น การแจกจ่ายอาหารหรือสิ่งของ การจัดเลี้ยง เว้นแต่เป็นการจัดโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ระหว่างผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างน้อยหนึ่งเมตร สถานที่จัดกิจกรรมต้องโล่งแจ้ง หรือไม่แออัด ใช้ระยะการจัดกิจกรรมไม่นาน และมีมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด 
    

3.ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ได้แก่สนามมวย สนามชนไก่ สถานซ้อมก่ 
    

กรณีผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ มีโทษตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดตามมาตรา 18 พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป   
             

อีกฉบับประกาศจังหวัดอุดรธานี ฉบับที่ 14/2563 เรื่องห้ามไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวจากต่างจังหวัดเข้ามาและออกนอกจากพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) 
    

ด้วยสถานการณ์โรคติดต่อไวรัสโคโรนา2019(โควิค19)ในจังหวัดสมุทรสาครพบมีผู้ติดเชื้อมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวที่มาประกอบอาชีพในจังหวัดสมุทรสาคร ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิค19) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังวัดอุดรธานี ตามมติที่ประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอุดรธานี ครั้งที่ 25/2563 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2563 จึงมีคำสั่งห้ามไมให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวจากต่างจังหวัดเข้ามาในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวออกจากพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคคิดเชิ้อไวรัส 2019(โควิค19) 
    

กรณีผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ มีโทษตามนัยมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือต้องระวางโทษไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 
    

อนึ่ง ด้วยเหตุที่เป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อคุมครองสวัสดิภาพของประชาชนและประโยชน์สาธารณะ หากปล่อยให้เนิ่นนานไปจะก่อผลเสียหายร้ายแรงต่อส่วนรวม  จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรค2(1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง