จับคาหนังคาเขาซื้อเสียง “อบจ.นครปฐม”พร้อมเงินสด 3 หมื่นบาท

19 ธ.ค. 2563 | 15:23 น.

ชุดเคลื่อนที่เร็วของตำรวจจับหัวคะแนนผู้สมัคร "อบจ.นครปฐม" คาหนังคาเขาพร้อมสดสำหรับซื้อเสียง กว่า 3 หมื่นบาท

 

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 ธ.ค.2563 ระหว่างเวลา 18.00 – 17.00 น. ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ทุจริตการเลือกตั้งได้ พร้อมกับของกลางเงินสด


โดย พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม เปิดเผยถึงปฏิบัติการของผู้ตรวจการเลือกตั้งและชุดเคลื่อนที่เร็วของตำรวจว่า วันนี้(19 ธ.ค.63) สามารถจับกุมหัวคะแนนของผู้สมัครรายหนึ่งที่ จ.นครปฐม ได้ พร้อมเงินของกลางสำหรับใช้ในการซื้อเสียงจำนวนกว่า 30,000 บาท ซึ่งได้แจ้งข้อกล่าวหา และนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายเลือกตั้งแล้ว 


มีรายงานว่า สำหรับพฤติกรรมของหัวคะแนนรายดังกล่าว มีการนำเงินออกไปแจกซื้อเสียงให้เงินผู้มีสิทธิเลือกตั้งหัวละ 500 บาท เพื่อให้เลือกผู้สมัครรายหนึ่ง ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ตามมาตรา 65 โทษสูงสุดจำคุก 10 ปี ปรับสูงสุด 2 แสนบาท  และตัดสิทธิ์เลือกตั้ง 20 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนว่ ามีการแจกเงินซื้อเสียงให้ผู้ใดบ้าง เพราะมีโทษความผิดทั้งผู้ให้และผู้รับ เพื่อจะสอบสวนขยายผลสาวไปถึงตัวผู้สมัครด้วย


ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงมาตรการป้องกันการซื้อสิทธิ์ขายเสียง และการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นในคืนก่อนวันลงคะแนนเลือกตั้งหรือที่เรียกกันว่า “คืนหมาหอน”ว่า วันนี้เครือข่ายของสำนักงาน กกต. ซึ่งประกอบด้วย ผู้ตรวจการการเลือกตั้ง ชุดตำรวจเคลื่อนที่เร็วจากสถานีตำรวจต่างๆ ทั่วประเทศ  สมาชิกศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย หรือ ศส.ปชต.ตลอดจนเครือข่ายประชาชน และ ผู้ใหญ่บ้านทุกพื้นที่ จะประสานการทำงานร่วมกันออกหาเบาะแส สอดส่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียงอย่างเต็มที่ทั่วประเทศ หากพบการกระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที โดยมั่นใจว่ามาตรการของ กกต.จะจับกุมผู้ที่ทำความผิดมารับโทษอย่างถึงที่สุดไม่ปล่อยให้ลอยนวลไปได้


เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า  ตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น การซื้อเสียงจะมีโทษทั้งผู้ให้และผู้รับ โดยในมาตรา 65 ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 กำหนดห้ามผู้ใดกระทำการให้เงิน ทรัพย์สิน หรือสัญญาว่าจะให้ หรือเตรียมจะให้ หรือกระทำการที่เป็นการจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้และมาตรา 92 กำหนดห้ามผู้มีสิทธิเลือกตั้งยอมรับเงิน หรือประโยชน์อื่นใด เพื่อให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้ผู้สมัครรายหนึ่งรายใด มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี ปรับสูงสุด 2 แสนบาทและตัดสิทธิ์เลือกตั้งถึง 20 ปี พร้อมเตือนไปยังผู้สมัคร และประชาชน ให้ระมัดระวังการกระทำที่เป็นการสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายเลือกตั้ง