ชง พักชำระหนี้โรงสี หวังซื้อข้าวช่วยชาวนา

11 พ.ย. 2563 | 05:30 น.

สมาคมชาวนาฯ ปลื้มขอบคุณรัฐช่วย “ประกันรายได้” ไม่ทิ้งเกษตรกรฝ่าวิกฤติข้าวตกต่ำ อีกด้านเจรจากรมการค้าภายใน เรียกโรงสี-แบงก์คุย ดันโปรเจ็กต์พักชำระหนี้ สัปดาห์หน้านัดเจรจา หวังโรงสีมาช่วยซื้อข้าวราคาสูงขึ้น

เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ โดยคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีที่ 2 การกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง และการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 ในงวดที่ 1 ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2563/64 ที่เก็บเกี่ยวจนถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 สำหรับข้าวเปลือกสีต่างๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15% มีการอนุมัติการชดเชยส่วนต่างเรียบร้อยแล้ว ก็คาดว่า ทาง ธ.ก.ส.จะโอนเงินเข้าบัญชีให้กับชาวนาในวันที่ 16 พ.ย.นี้

 

ปราโมทย์ เจริญศิลป์

 

นายปราโมทย์  เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” อยากจะขอบคุณรัฐบาล โดยเฉพาะจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ทำให้เกิดโครงการประกันรายได้ข้าว ที่จ่ายให้กับชาวนาในวันที่ 16 พ.ย.นี้ รวมทั้งเงินค่าเก็บเกี่ยวจะออกเป็น 2 งวด โดยงวดแรกจะจ่ายก่อน 500 บาท และงวดที่2 จะจ่าย 500 บาท  ไม่เกิน 20 ไร่ รวมทั้ง 2 งวด รับสูงสุด 2 หมื่นบาท ก็รับปากแถลงข่าวออกมาแล้ว ผมในฐานะตัวแทนชาวนาทั้งประเทศ ก็ต้องขอขอบคุณที่ช่วยฝ่าวิกฤติอุ้มชาวนาในช่วงราคาข้าวตกต่ำ แล้วหากไม่มีโครงการนี้ชาวนาตายแน่นอน

 

 

จากการที่คณะอนุกรรมการฯ ชดเชยส่วนต่าง ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 12,088.83 บาท ได้รับชดเชย ตันละ 2,911.17 บาท ,ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 11,862.55 บาท ได้รับการชดเชย ตันละ 2,137.45 บาท,ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 8,777.64 บาท  ได้รับการชดเชยตันละ 1,222.36 บาท,ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 9,933.04 บาท  ได้รับการชดเชยตันละ 1,066.96 บาท,ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 9,915.66 บาท ได้รับการชดเชย ตันละ 2,084.34 บาท สาเหตุที่ได้รับการชดเชยราคาข้าวแต่ละชนิดสูง เพราะค่าเงินบาทแข็ง และการส่งออกน้อย อยากให้ทางรัฐบาลช่วยเร่ง ติดต่อประสานงานทางต่างประเทศให้มาซื้อข้าวไทย จะได้ส่งออกได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับเกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จึงทำให้เศรษฐกิจโลกยังคงซบเซา


 

ชง พักชำระหนี้โรงสี หวังซื้อข้าวช่วยชาวนา

 

นายปราโมทย์   กล่าวว่า ยอมรับว่าในบางพื้นที่มีชาวนาหลายคนไม่พอใจ แต่เราก็ต้องเข้าใจ ณ วันที่ 11 พ.ย.2563 ชาวนาขายข้าวเกี่ยวสด เฉลี่ยแต่ละชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ราคา 8,500-8,700 บาท/ตัน ข้าวปทุมธานีกว่า 8,000 บาท/ตัน ข้าวหอมมะลิ105 ราคา 9,000-10,000 บาท/ตัน  ข้าวเหนียว 7,500-8,000 บาท/ตัน ราคามีแนวโน้มปรับลงมาอีก เพราะโรงสีขาดสภาพคล่อง เมื่อวาน (10 พ.ย.63) ได้มีการพูดคุยหารือกับ คุณวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าภายใน ซึ่งท่านก็รับปากเรียบร้อยแล้วว่า สัปดาห์หน้าจะเชิญ ธ.ก.ส. และ เจ้าหนี้ธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อให้โรงสี ขอให้หยุดพักชำระหนี้ก่อน เพื่อให้โรงสีมีเงินมาซื้อข้าว เพราะหากโรงสีไม่เงินซื้อข้าว ชาวนาไม่มีที่ขาย  ทุกอย่างจบเลยนะ ที่สำคัญโรงสีจะไม่กดราคา ชาวนาจะไม่ขายข้าวในราคาต่ำ มองว่าผลประโยชน์ วิน-วิน ทุกฝ่าย