เพิ่มร้านค้า"คนละครึ่ง" มท.1 สั่งการทุกจังหวัดเร่งเชิญชวนผู้ประกอบการเข้าร่วม

25 ต.ค. 2563 | 03:01 น.

"คนละครึ่ง" มท.1 สั่งการทุกจังหวัด เร่งรัดให้อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เชิญชวนร้านค้า ผู้ประกอบการในพื้นที่สมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เพิ่มจำนวนร้านค้ารองรับการใช้จ่าย หวังเกิดการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจของชุมชนในทุกท้องถิ่น

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ รายงานข่าวว่า เมือวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด จังหวัดลำพูน ถึงการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “คนละครึ่ง” ว่า

 

รัฐบาลมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับฐานราก สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยโดยเฉพาะกลุ่มหาบเร่ แผงลอย เพื่อให้มีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น โดยภาครัฐร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ผ่านฝ่ายของผู้ซื้อร้อยละ 50 โดยไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ เป็นวงเงินรวม 30,000 ล้านบาท ซึ่งการร่วมจ่ายคนละครึ่งนี้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และจะช่วยเติมกำลังซื้อของประชาชน เพื่อให้มีการใช้จ่ายหมุนเวียนไปถึงผู้ประกอบการรายย่อยได้อย่างต่อเนื่อง เป็นเงิน 60,000 ล้านบาท           

 

 

ประชาชนที่สมัครเข้าร่วมโครงการจะได้รับวงเงินเข้าแอปพลิเคชันเป๋าตัง คนละ 3,000 บาท เพื่อนำไปใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการกว่า  3 แสนแห่งทั่วประเทศ โดยรัฐจะช่วยจ่ายให้ครึ่งหนึ่งของยอดซื้อ แต่สูงสุดไม่เกินวันละ 150 บาท จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 หากประชาชนผู้สมัครเข้าร่วมโครงการได้รับ SMS ยืนยันสิทธิแล้ว ให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" และยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย จากนั้นเติมเงินตามต้องการเข้าแอปฯ เป๋าตัง ก็จะสามารถใช้ซื้อสินค้ากับผู้ประกอบการร้านค้าที่มีแอปฯ ถุงเงิน ได้ทันที

           

สำหรับร้านค้า ผู้ประกอบการ สามารถลงทะเบียนได้ต่อเนื่องตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการ โดยจะต้องมีคุณสมบัติ คือ เป็นผู้ประกอบการร้านค้าประเภทร้านอาหาร เครื่องดื่ม และค้าทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา ไม่เป็นร้านค้าสะดวกซื้อที่มีลักษณะเป็นแฟรนไซส์ มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อรองรับการใช้จ่ายของประชาชน และมีบัญชีธนาคารกรุงไทยเพื่อรองรับเงินร่วมจ่ายจากภาครัฐ โดยรัฐจะโอนเงินเข้าบัญชีของร้านค้าในวันทำการถัดไป

         

พลเอกอนุพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกจังหวัด เร่งรัดให้อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้เข้าไปพบปะเชิญชวนผู้ประกอบการในพื้นที่ ให้สมัครเข้าร่วมโครงการโดยเฉพาะหาบเร่ แผงลอย เพื่อให้มีร้านค้ารองรับการใช้จ่ายมากที่สุด เกิดการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจของชุมชนในทุกท้องถิ่นให้มากที่สุดอย่างเร่งด่วนต่อไป

 

ที่มาข้อมูล : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์