ลุ้นผลโควิด 1 ราย ผู้สัมผัสดีเจหนุ่ม ร้านเฟิร์ส คาเฟ่ ถนนข้าวสาร

05 ก.ย. 2563 | 08:29 น.

อธิบดีกรมควบคุมโรค แจงพบยอดผู้สัมผัสใกล้ชิดดีเจหนุ่มผู้ต้องขังที่ติดโควิด-19 เพิ่มเป็น 708 ราย เสี่ยงสูง 140 ลุ้น 1 รายจาก "เฟิร์สคาเฟ่" ถ.ข้าวสาร เข้าเกณฑ์ PUI

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรคเปิดเผยว่า ความคืบหน้าล่าสุดในการติดตามผู้สัมผัส ผู้ต้องขังติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) พบผู้สัมผัสเพิ่มขึ้นสะสมที่ 708 ราย โดยเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 140 ราย สัมผัสเสี่ยงต่ำ 568 ราย เมื่อแยกเป็นรายกลุ่ม แบ่งเป็น ที่พำนักพักที่คอนโด มีผู้สัมผัส 6 ราย ทั้งหมดตรวจแล้วไม่พบเชื้อ

 

กลุ่มที่ไปศาลเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม มีผู้สัมผัส 493 ราย แบ่งเป็นเสี่ยงสูง 15 ราย ตรวจแล้ว 11 ราย ไม่พบเชื้อ เสี่ยงต่ำ 478 ราย ตรวจแล้ว 146 ราย ไม่พบเชื้อ ที่เหลืออยู่ระหว่างรอผลตรวจ และอยู่ระหว่างเฝ้าระวัง 14 วัน กลุ่มโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีผู้สัมผัส 6 ราย ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ อยู่ระหว่างเฝ้าระวัง 14 วัน

ลุ้นผลโควิด 1 ราย ผู้สัมผัสดีเจหนุ่ม ร้านเฟิร์ส คาเฟ่ ถนนข้าวสาร  

กลุ่มทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง มีผู้ต้องขังที่อยู่ร่วมระหว่างกัก 36 คน ตรวจแล้วไม่พบเชื้อฯ รอกักตัวให้ครบตามกำหนด 14 วัน และต้องตรวจซ้ำอีก 2 ครั้ง และอีกกลุ่มที่เป็นเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเรือนจำ ซึ่งมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 24 ราย แยกกักแล้ว อยู่ระหว่างเก็บตัวอย่างส่งตรวจ และเสี่ยงต่ำ 52 ราย ให้เฝ้าระวัง 14 วัน โดยปฏิบัติตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด กลุ่มเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีผู้สัมผัส 8 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด โดยเป็นผู้ต้องขังที่นั่งรถโดยสารร่วมกัน ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ

 

นอกจากนี้ กลุ่มที่ทำงานร้าน 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม 3 มีผู้สัมผัส 14 ราย เสี่ยงสูงทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลแล็ป ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ติดต่อเข้ามารับการคัดกรองที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือประเมินความเสี่ยงได้ที่แอปพลิเคชัน BKK COVID-19 หากมีความเสี่ยง ทางกรุงเทพมหานครจะประสานกลับไป ส่วนร้าน 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม 5 มีผู้สัมผัสทั้งหมด 55 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 23 ราย ตรวจแล้ว 22 ราย ไม่พบเชื้อ อีก 1 ราย เป็นแรงงานต่างด้าวที่มีรายงานข่าวว่าหลบหนี ขณะนี้ติดตามตัวได้แล้ว ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 32 ราย ต้องเฝ้าระวัง 14 วัน

 

ส่วนที่ร้านเฟิร์ส คาเฟ่ ถนนข้าวสาร มีผู้สัมผัส 14 ราย เสี่ยงสูงทั้งหมด ได้รับการตรวจแล้ว 13 ราย ไม่พบเชื้อ ส่วนอีก 1 ราย พบว่ามีอาการเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) คือมีไข้ ได้นำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลกลาง เพื่อตรวจและดูแลรักษา อยู่ระหว่างรอผล ส่วนผู้มารับบริการอื่นๆ ที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ก็จะดำเนินการประชาสัมพันธ์ว่าท่านใดที่มีข้อสงสัยหรือคิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงต่ำ สามารถมาขอรับบริการหรือว่าสอบถามเข้ามายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้

“เชื่อว่า ประชาชนมีคำถาม 4 คำถามคือ ข้อสงสัยว่า ติดเชื้อจากที่ไหน ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนที่ 2 มีความกังวลว่าผู้ต้องขังรายนี้จะไปแพร่โรคให้ใครหรือไม่ ซึ่งยืนยันว่า รายนี้ไม่มีอาการมาก ประกอบกับเป็นดีเจ ทำงานกลางคืน ไม่ได้ทำงานบริการโดยตรง คนที่สัมผัสโรคจึงมีจำกัดในระดับหนึ่ง และด้วยความทำงานกลางคืน กลางวันจึงพัก ถ้าจะไปไหนคงมีแค่กิจวัตรประจำวันเท่านั้น ความเสี่ยงความกังวลว่าจะมีการแพร่เชื้อแบบซูเปอร์สเปรดเดอร์จะไม่มาก

 

ส่วนที่ 3 เมื่อเราตรวจในส่วนของผู้สัมผัสใกล้ชิด ซึ่งถ้าจะแพร่โรคให้ใครก็คงเป็นคนในครอบครัวก่อน แต่จากการตรวจคนในครอบครัวทั้งหมดตอนนี้ยังไม่มีใครติดเชื้อฯ และตามต่อคนใกล้ชิดคือผู้ต้องขังที่อยู่ร่วมกัน 36 คน ก็ไม่เจอ ที่ศาลก็ไม่เจอ พนักงานที่ทำงานด้วยกันก็ไม่พบเชื้อ นั่นหมายความว่า โอกาสที่จะไปแพร่เชื้อให้คนอื่น หรือผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำโอกาสก็ยิ่งน้อยไปอีก ที่เป็นแบบนี้ได้ส่วนหนึ่งคือ มาตรการการควบคุมป้องกันโรคที่เราทำกันอยู่ แม้ว่าจะหละหลวมไปบ้างแต่อย่างน้อยก็ได้ทำ

 

ดังนั้นคำแนะนำสำหรับประชาชนตอนนี้จึงแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ ประชาชนที่คิดว่าตัวเองไปอยู่ในสถานที่หรือวันเวลาที่ผู้ติดเชื้ออาจจะไป ก็ไม่ต้องตกใจหรือกังวล ให้โทรสอบถาม 1422 หรือเดินไปขอรับคำปรึกษา ตรวจคัดกรองได้ แต่ต้องมีการให้ประวัติก่อน และถ้าจุดไหนที่มีรถเก็บตัวอย่างเชื้อชีวนิรภัย ก็สามารถไปขอรับบริการได้ และปฏิบัติตัวตามมาตรการควบคุมโรคไปก่อน

 

กลุ่มที่สอง ประชาชนทั่วไป โอกาสที่จะเจอผู้ติดเชื้อหรือมีรายงานผู้ติดเชื้อในประเทศไทย ก็จะเหมือนกับต่างประเทศที่มีการควบคุมได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะมากับแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมือง หรือผู้ติดเชื้อในชุมชนที่ไม่แสดงอาการหรือมีอาการน้อยๆ แต่ประชาชนไม่ต้องตกใจ ตื่นกลัว อันดับแรกคือ คงมาตรการควบคุมป้องกันโรคเข้มข้นเอาไว้ จากที่ก่อนหน้านี้กรมควบคุมโรคได้สำรวจทุก 14 วัน พบว่า ประชาชนการ์ดตก

ดังนั้นตอนนี้ก็ขอให้ยกสูง โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า การเว้นระยะห่าง และการล้างมือ อีกส่วนหนึ่งคือสถานประกอบการต่างๆ หรือผู้ที่ดำเนินกิจกรรมทางสังคม ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการหลักและมาตรการเสริมของ ศบค.อย่างเคร่งครัด รวมถึงกำชับผู้ใช้บริการปฏิบัติตามอย่างเคร่ง ดีกว่าปล่อยให้เกิดการติดเชื้อหรือระบาด

 

"เราพบผู้ติดเชื้อและรายงาน แต่สามารถควบคุมไม่ให้เกิดการระบาด และทำมาตรการเชิงรุกให้ครอบคลุม ดังนั้นจะพยายามค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำให้มากและนำมาดูแลตามมาตรการเพื่อสร้างความมั่นใจว่าถึงแม้จะเจอผู้ติดเชื้อ แต่เราจะควบคุมไม่ให้เกิดการระบาด"อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปัดมีผู้ติดเชื้อโควิดเสียชีวิตในศูนย์อพยพจังหวัดแม่ฮ่องสอน

อัปเดตสถานการณ์ติดเชื้อโควิด

ยอดโควิด 5 ก.ย.63 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย มาจาก 5 ประเทศ

โอกาสการลงทุนในยุควิกฤติ COVID-19