“สหกรณ์กองทุนสวนยางโคกยาง” รับซื้อน้ำยางสด 51 บาท/กก.

นายปฐมพร สมวงศ์ ประธานสหกรณ์กองทุนสวนยางโคกยาง จำกัด จังหวัดนครศรีธรรมราช เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” จากผลพวงราคายางแผ่นรมควัน ราคา 60.05 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้สหกรณ์รับซื้อราคาน้ำยางสดวันนี้ในราคา 51 บาทต่อกิโลกรัม ในราคานี้ยังมีกำไร ต้นทุนการผลิตยางแผ่นรมควันไม่เกิน 7 บาท ต่อกิโลกรัม เป็นการคืนให้กับสมาชิกสหกรณ์ มีจำนวนกว่า 190 ราย ไม่ได้เน้นกำไรทั้งปี หรือต้องการกำไรสูงหลักล้าน-2 ล้าน เน้นให้สมาชิกมากกว่าผลกำไรอย่างเดียว อย่างปีที่แล้วก็มีกำไร 8 แสนบาท และที่ผ่านมาสหกรณ์ก็ไม่เคยประสบปัญหาการขาดทุนเลย

“การตั้งราคารับซื้อน้ำยางสด ก็เพราะต้องการให้สมาชิกพอใจ ซึ่งการทำงานสหกรณ์ไม่ใช่รูปแบบเอกชน ทำเพื่อสหกรณ์ และเพื่อสมาชิก ให้สมาชิกพอใจ ที่สำคัญผมเป็นคนในพื้นที่ ผลประโยชน์สูงสุดจะเน้นไปที่สมาชิกเป็นหลัก  เพราะผมสนใจแต่สมาชิกสหกรณ์ของผมเท่านั้น”

ด้านนายวรเทพ วงศาสุทธิกุล ประธานและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) เผยว่าในช่วงนี้ยางขาดตลาด เพราะฝนตกชุกทั่วประเทศ รวมทั้งปัญหาแรงงานยังเข้าประเทศไม่ได้ นี่เป็นปัญหาใหญ่ทำให้ไม่มีคนกรีดยาง  แล้วที่สำคัญต้องใช้คนกรีด เป็นระดับงานฝีมือและมีทักษะ ด้วย  มีภาคเหนือ บางพื้นที่ก็ยังไม่เปิดกรีด เพราะหาคนกรีดดยางไม่ได้ จะให้คนไม่มีทักษะไปกรีดยางแทนก็ไม่ได้ด้วย

“ถุงมือยาง” ต้องทำเป็นวาระแห่งชาติ โดยให้ กยท.เป็นเจ้าภาพ ได้มีการพูดหารือตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว พอมีประชุม กนย.ได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรี แต่ เพิ่งจะมาตื่นเต้นกันเมื่อเดือนที่แล้ว เพราะสมาคมถุงมือยาง จะไม่ค่อยออกข่าวในเรื่องนี้เพราะคิดว่ากลัวจะมีคู่แข่งมาก และช่วงนี้มีคนเข้ามาจำนวนมากเพื่อจะซื้อถุงมือ แต่ก็ต้องกรองว่าเป็นข่าวจริงหรือข่าวเทียม มีตัวจริงหรือเปล่า หรือมีแต่ตัวปลอม บางทีพวกมิจฉาชีพหรือ 18 มงกุฎจะนำข่าวกระแสนี้ไปหลอกชาวบ้าน ต้องเช็กยืนยันให้ชัดเจน”

นายวรเทพ กล่าวว่า ในที่ประชุม กนย. ก็ได้เสนอนายกรัฐมนตรีว่าให้กระทรวงพาณิชย์ สำรวจว่าทั่วงโลกแต่ละประเทศที่ติดโควิดต้องการถุงมือยางเท่าไร เพื่อที่จะได้ประเมินว่าควรจะลงทุนหรือไม่ในประเทศไทย เพื่อที่นักลงทุนจะได้มีข้อมูล มาลอยแล้วมาเป็นพันล้านชิ้น มาจากไหน ดังนั้นควรเช็กให้ดีข่าวแบบนี้ ความจริงถุงมือ ยังมีความต้องการมากเพราะโควิด ทั้งอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และยุโรป เนื่องจากมีการระบาดอยู่ แล้วโรงงานที่แต่ละโรงที่ผลิตอยู่ตอนนี้เต็มกำลังการผลิตหมดแล้ว ไม่สามารถขยายกำลังการผลิตได้เลย แต่ความต้องการยังเพิ่มอยู่ ทำให้ของขาด ราคาก็พุ่งขึ้นไป คนก็หาซื้อถุงมือไม่ได้ เช่นเดียวกับในช่วงหน้ากากขาดแคลน คนหาซื้อไม่ได้ แต่ว่าหน้ากาก ทำเร็ว แต่ถุงมือกว่าจะผลิตและได้ใช้ระยะเวลาเป็นปี เมื่อผลิตไม่ทันขาดแคลนมาก เป็นไปตามกลไกตลาด

"น้ำยางแค่20%  ซึ่งมี "น้ำยางข้น" ที่ใช้ผลิตถุงมือ อย่างเดียวที่กระตุ้น แต่นอกเหนือจากผลิตอื่นที่ใช้ยางยังทรงอยู่ "น้ำยาง" ในขณะนี้ไม่ขาดแคลน ยกเว้นแต่หากน้ำยางขาด ราคาจะพุ่งขึ้นแน่นอน แต่น้ำยางที่นำไปผลิตถุงมือไนไตร ตอนนี้ขาดแคลน บวกกับโรงงานผลิตก็เต็มกำลังการผลิตแล้ว คาดว่าราคาในช่วงนี้เป็นราคายังยืนแข็งอยู่ในระยะนี้ไปอีกสักพักใหญ่ ปัจจัยที่จะมีเปลี่ยนราคายางในอนาคต อาทิ การเปิดรับนักท่องเที่ยว,รับแรงงานเข้าประเทศ และปลายปีที่ผลผลิตยางออกมาจำนวนมาก จะมีฝนหรือไม่ เพราะถ้ามีฝนชุก ก็กรีดยางไม่ได้ซัพพลายในตลาดก็จะมีน้อย เป็นต้น  ซึ่งจะต้องประเมินเป็นระยะๆ

อนึ่งการยางแห่งประเทศไทย ประกาศราคาน้ำยางสด ณ หน้าโรงงาน (DRC ไม่ต่ำกว่า35%) ประจำวันที่ 2 ก.ย.2563 กิโลกรัมละ 45.80 บาท ปรับตัวเพิ่มจากเมื่อวาน 0.80 บาท/กิโลกรัม ยังมีสัญญาณบวกอยู่ ความต้องการถุงมือยาง