โคราชเปิดแห่งแรก"ฟาร์มกัญชาในชุมชน"

24 ส.ค. 2563 | 08:33 น.

"โคราช"เปิดฟาร์มกัญชาในชุมชนแห่งแรก เพื่อวิจัยและพัฒนาต่อยอดสู่การใช้ประโยชน์ด้านการแพทย์ วางระบบป้องกันเข้มตลอดเวลา หวังสร้างรายได้และความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก


"โคราช"เปิดฟาร์มกัญชาในชุมชนแห่งแรก เพื่อวิจัยและพัฒนาต่อยอดสู่การใช้ประโยชน์ด้านการแพทย์ วางระบบป้องกันเข้มตลอดเวลา หวังสร้างรายได้และความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก
     

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ที่บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 1 บ้านเหมือด แอ่ ต.เสมา อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา  นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับนายอดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา เป็นประธานเปิดฟาร์มเพาะปลูกกัญชาเพื่อการวิจัยและพัฒนาในชุมชนแห่งแรกของจังหวัดนครราชสีมา ภายใต้โครงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของชุมชน ระหว่างม.ราชภัฎนครราชสีมช กับวิสาหกิจชุมชนและกลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ตำบลเสมา อำเภอสูงเนิน มีผศ.ดร.ธนากร เปลื้องกลาง เป็นหัวหน้าโครงการ พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ ธัญญเกษตร หัวหน้าทีมนักวิจัยฯ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และภาคเอกชน ในการสร้างโรงเรือนและวัสดุอุปกรณ์อื่น อาทิ ระบบปรับอากาศ-แสงภายในโรงเรือน ติดตั้งวงจรปิด และรั้วที่มีความสูง เพื่อความมั่นคงปลอดภัย
  โคราชเปิดแห่งแรก"ฟาร์มกัญชาในชุมชน"     

ฟาร์มปลูกกัญชาแห่งนี้ ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ให้ปลูกและมีไว้ครอบครองพืชกัญชาสำหรับโครงการวิจัย ซึ่งได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์กัญชาจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ปัจจุบันการเพาะปลูกและศึกษาวิจัยได้เริ่มขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ และนำผลการวิจัยไปพัฒนาต่อยอด แปรรูปผลิตภัณฑ์จากกัญชาไปสู่การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี การเภสัชกรรม การพาณิชย์และการส่งออก อันจะนำมาซึ่งการสร้างรายได้และความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากในหมู่บ้านและชุมชน โดยมีเป้าหมายขยายฟาร์มเพาะปลูกกัญชาในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา อีก 5 แห่ง
    

นายวิเชียร จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ได้มาดูความก้าวหน้าของฟาร์ม เมื่อครบกระบวนการจะได้นวัตกรรมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดินที่ใช้ปลูก สายพันธุ์กัญชา และกระบวนการปลูกเพื่อให้ได้กัญชาอินทรีย์ ไปจนถึงท้ายสุดปลายน้ำ คือได้ผลิตภัณฑ์จากกัญชาที่สามารถนำใช้ประโยชน์ทางอาหารและยา เป็นประโยชน์ด้านวิชาการ ด้านสาธารณสุข และประชาชน ตลอดจนเป็นต้นแบบให้กับโครงการพัฒนากัญชาในพื้นที่อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี 
     

ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด มีกล้องวงจรปิดทั้งในโรงเรือนและรั้ว รวมทั้งด้านหน้าประตูเข้า-ออก มีรั้วโดยรอบมิดชิด มีทีมวิจัยและเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงทุกอย่างครบถ้วน มีความมั่นคงแข็งแรง ที่สำคัญได้รับความร่วมมือของพี่น้องชาวบ้านในชุมชนแห่งนี้ ในการสอดส่องดูแลและได้ประโยชน์นวัตกรรมนี้ด้วย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลุยขยายถนนสาย นม.1001-นครราชสีมา หนุนรถไฟทางคู่กรุงเทพฯ-หนองคาย 

โคราชสั่งปิด29อ่างเก็บน้ำสกัดโควิด

สธ.เห็นชอบให้ใช้ ตำรับยาที่มีกัญชาปรุงผสมใน รพ.สต. 


  โคราชเปิดแห่งแรก"ฟาร์มกัญชาในชุมชน"        

  โคราชเปิดแห่งแรก"ฟาร์มกัญชาในชุมชน"

“ฟาร์มเพาะปลูกกัญชาที่นี่เป็นแห่งแรกของจังหวัดนครราชสีมาที่เปิดอย่างเป็นทางการ สามารถเป็นโมเดลสำหรับชุมชน หน่วยงาน องค์กร หรือผู้ที่มีความสนใจอยากจะปลูกกัญชาและพัฒนาต่อยอด อาจจะใช้ที่แห่งนี้เป็นที่ที่มาศึกษาวิจัยและใช้เป็นต้นแบบได้เลย เพราะที่นี่มีความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว“   
    

ด้าน ผศ.ดร.ธนากร เปลื้องกลาง หัวหน้าโครงการวิจัยฯ กล่าวว่า   ฟาร์มเพาะปลูกกัญชาแห่งนี้เพื่อจะศึกษาอิทธิพลของปัจจัยการผลิต ที่มีผลต่อปริมาณสารสำคัญและสารปนเปื้อนในพืชกัญชา โดยวิธีการที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ สามารถที่จะตรวจสอบคุณภาพของพืชกัญชา ไม่ว่าจะเป็นผลผลิตที่แปรรูปมาแล้ว เพื่อตรวจสอบหาว่ามีปริมาณสารสำคัญอยู่เท่าไร และมีสารปนเปื้อนหรือไม่ ซึ่งจะเป็นตัวแปรเริ่มต้นที่นำไปประยุกต์ต่อยอดทางการแพทย์ การเภสัช การพาณิชย์ และเพื่อเป็นอาหารเสริม หรืออาหารแปรรูปอื่น ๆ ที่มีความปลอดภัย ปราศจากสารปนเปื้อน

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน้า 17 ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,603 วันที่ 23-26 สิงหาคม 2563