สวนปาล์มเชียร์ใช้ “บล็อกเชน”ซื้อขาย หวังได้ราคาเป็นธรรม

09 มิ.ย. 2563 | 11:49 น.

สวนปาล์มเชียร์กระทรวงพลังงานใช้ระบบบล็อกเชนบริหารซื้อขายปาล์ม หวังช่วยดันราคาเป็นธรรม ลดความผันผวน ห่วงเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีพลังงานจาก ”สนธิรัตน์”เป็นคนอื่นไม่รับลูกดันต่อ

จากที่นายสนธิรัตน์  สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประกาศเตรียมนำระบบบล็อกเชน(Blockchain)มาใช้ในการบริหารการซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบ(ซีพีโอ)ที่นำไปใช้ในการผลิตไบโอดีเซล(บี100) เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่สะท้อนราคาผลปาล์มอย่างเป็นธรรม โดยจะมีการเก็บข้อมูลราคาปาล์มที่เกษตรกรขายได้ ราคาปาล์ม ณ ลานเท และ ณโรงสกัด  ราคาน้ำมันปาล์มดิบ(CPO) ที่โรงสกัดฯขายได้  และราคาบี 100 ณ โรงงานผลิต และราคาไบโอดีเซล ณ โรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งจะทำให้โครงสร้างราคาสอดคล้องกันทั้งระบบอย่างสมเหตุสมผล ซึ่งระบบนี้จะช่วยตัดวงจรพ่อค้าคนกลางที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ปาล์มน้ำมันของเกษตรกรถูกกดราคาและตกต่ำเรื่อยมา  

นอกจากนี้ระบบบล็อกเชนจะก่อให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม 3 ด้านคือ 1.เกิดการสมดุลการใช้น้ำมันปาล์มกับผลผลิตเป็นครั้งแรกในไทย 2. ปลายทางของราคา CPO ตอบสนองและสอดคล้องกับราคาผลปาล์มต้นทางของเกษตรกร และ 3.ผลพลอยได้คือ ป้องกันการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์ม จากสามารถตรวจสอบได้ว่าโรงงานซื้อปาล์มจากสวนไหน ประมาณเท่าใด ทำให้ไม่มี CPO ส่วนเกิน โดยล่าสุดกรมธุรกิจพลังงานอยู่ระหว่างทำโครงการนำร่องเพื่อทดสอบระบบ

นายชโยดม  สุวรรณวัฒนะ ประธานชมรมคนปลูกปาล์มน้ำมัน จังหวัดกระบี่ และตัวแทนเครือข่ายผู้สนับสนุนการใช้ไบโอดีเซลบี100 เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า เห็นด้วยกับการนำระบบบล็อกเชนมาใช้ในการบริหารการซื้อขายปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่ายในห่วงโซ่การผลิตไบโอดีเซล(บี100) เฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้เกษตรกรที่ถูกกดราคามาโดยตลอดได้รับราคาที่เป็นธรรม

ทั้งนี้เท่าที่ตนได้พูดคุยกับนายสนธิรัตน์มา 2 -3 ครั้งในการลงพื้นที่พบปะกับเกษตรกร นายสนธิรัตน์ระบุอยากให้มีการซื้อขายน้ำมันบี 100 ล่วงหน้า โดยการประกาศโครงสร้างราคาในแต่ละครั้งสามารถยืนไว้ได้ 3 เดือน ซึ่งจะทำให้ราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มราคาไม่แกว่งตัวมาก สะท้อนถึงราคาที่เป็นธรรมในแต่ละขั้นตอน เช่น หากประกาศราคาบี100 อยู่ที่ 26 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) ราคา CPO ต้องประมาณ 23 บาทต่อกก. และราคาผลปาล์มต้องอยู่ที่ 5 บาทต่อกก.เป็นต้น

สวนปาล์มเชียร์ใช้ “บล็อกเชน”ซื้อขาย หวังได้ราคาเป็นธรรม

                         ชโยดม  สุวรรณวัฒนะ

“การนำระบบบล็อกเชนมาใช้จะทำให้ทราบว่าราคาซีพีโอที่นำมาผลิตบี100 ต้นทุนเท่าไหร่ ผลปาล์มเข้าสู่โรงสกัดซีพีโอต้องราคาเท่าไหร่ ราคาผลปาล์มที่เกษตรกรขายได้ต้องเท่าไหร่ถึงจะเป็นธรรม  ปัจจุบันไทยใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี7 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานทั่วไป และตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 กระทรวงพลังงานประกาศจะบังคับให้น้ำมันไบโอดีเซลบี10 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานและทุกปั๊มต้องมีจำหน่าย ปัจจุบันไทยมีการใช้น้ำมันดีเซลเฉลี่ย 65-70 ล้านลิตรต่อวัน หากบังคับใช้บี10 เป็นดีเซลพื้นฐานทั่วไป การใช้บี100 เป็นส่วนผสมก็จะมีมากขึ้น ซึ่งต่อไปน้ำมันปาล์มดิบหรือซีพีโอ 2 ใน 3 ของผลผลิตจะใช้เพื่อภาคพลังงาน ดังนั้นหากระบบบล็อกเชนเริ่มได้ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม เราคาดหวังจะสามารถดึงราคาตลาดได้ และเกษตรกรคาดหวังระบบล็อกเชนจะช่วยให้ขายผลผลิตได้ในราคาที่ดีและไม่ขาดทุน”

ที่ผ่านมาไทยเป็นผู้ผลิตปาล์มน้ำมันอันดับ 3 ของโลก มีพื้นที่ปลูกและให้ผลผลิตกว่า 5 ล้านไร่ รองจากอินโดนีเซียที่มีพื้นที่ปลูก 65 ล้านไร่ และมาเลเซีย 25-30 ล้านไร่ ซึ่งทุกประเทศมีโครงสร้างราคาซื้อขายปาล์มที่สร้างความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย แต่เมืองไทยยังไม่เคยมี

อย่างไรก็ดีเวลานี้เกษตรกรยังไม่ค่อยมีความรู้ความเข้าใจเรื่องระบบบล็อกเชนจะบริหารการซื้อขายปาล์มอย่างไร และจะเข้าร่วมได้อย่างไร เรื่องนี้คงต้องสร้างความรู้ความเข้าใจ ที่กังวลคือฝ่ายโรงงานจะเห็นด้วย หรือเอาด้วยหรือไม่ รวมถึงกังวลว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานจากนายสนธิรัตน์  สนธิจิรวงศ์ ไปเป็นคนอื่น รัฐมนตรีคนใหม่จะรับลูกต่อในเรื่องหรือไม่

ก่อนหน้านี้นางสาวนันธิกา  ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ระบุว่า ในการหารือร่วมกับผู้ค้าน้ำมัน ผู้ผลิตไบโอดีเซล ภาคเอกชนพร้อมที่จะใช้ระบบบล็อกเชนในการซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบหรือซีพีโอเพื่อผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ทำให้ราคาปาล์มสมเหตุสมผล โดยจะเริ่มทดลองระบบในเดือนมิถุนายน เริ่มจากโรงงานไบโอดีเซลที่เป็นเจ้าของโรงสกัดน้ำมันปาล์มก่อน ก่อนที่จะทดลองทั้งระบบ ในอนาคตหากได้ผลดีทางกรมจะขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันซื้อบี100 จากโรงงานที่ใช้บล็อกเชนในการซื้อขายเท่านั้น

สวนปาล์มเชียร์ใช้ “บล็อกเชน”ซื้อขาย หวังได้ราคาเป็นธรรม